หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารโหดนายทหารชาวอังกฤษในกรุงลอนดอน ล่าสุดได้เกิดกระแสต่อต้านชาวมุสลิมไปทั่วเกาะอังกฤษ
เกิดกระแสต่อต้านชาวมุสลิมไปทั่วเกาะอังกฤษ หลังเกิดเหตุสังหารนายทหารชาวอังกฤษ โดยชาวมุสลิมเชื้อสายไนจีเรียหัวรุนแรง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า กระแสดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เหตุการณ์รุมสังหารโหด นายลี ริกบี้ นายทหารหนุ่มชาวอังกฤษวัย 25 ปี ในเขตวูลวิชของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับมีการเผยแพร่ภาพมือสังหารโหด ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายผิวดำเชื้อสายไนจีเรีย ที่นับถือศาสนาอิสลามได้เพียงแค่ 10 ปี ในมือยังคงเปื้อนคราบเลือดหลังการก่อเหตุ โดยเขาได้ประกาศสดุดดีพระอัลเลาะห์ และแสดงจุดประสงค์ของการก่อเหตุในครั้งนี้อย่างชัดเจน โดยระบุว่า เป็นเพราะทหารอังกฤษสังหารชาวมุสลิมเป็นประจำทุกวัน ได้ทำให้กระแสต่อต้านชาวมุสลิมในอังกฤษลุกลามอย่างรวดเร็ว
ซึ่งนับตั้งแต่วันพุธเป็นต้นมา ทางการอังกฤษ ก็ได้รับแจ้งเหตุร้ายต่างๆ มากมาย ทั้งการบุกทำลายมัสยิด การพ่นกราฟิตี้ที่มีข้อความต่อต้านศาสนาอิสลาม รวมถึงการต่อต้านการสวมผ้าคลุมหน้าของหญิงมุสลิม และการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยชื่อและนามสกุลจริงของชาวมุสลิมทุกคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ โดยนักวิเคราะห์มองว่า เหตุรุนแรงในลักษณะเช่นนี้ อาจลุกลามไปทั่วเกาะอังกฤษ จนเกิดการลุกฮือประท้วงต่อต้านชาวมุสลิมก็เป็นได้
โดยในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุคคลที่โพสต์ข้อความในโลกโซเชียลมีเดีย ที่เป็นข้อความในแนวเหยียดเชื้อชาติและศาสนาด้วย โดยการจับกุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า กระแสต่อต้านชาวมุสลิมในโลกออนไลน์ที่อังกฤษขณะนี้ได้ลุกลามบานปลาย จนยากที่จะควบคุม
ขณะเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลไม่แพ้กัน ก็คือความปอลดภัยของชาวอังกฤษ ที่อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศคู่ขัดแย้งอย่างมาลี อิรัก อัฟกานิสถาน และซีเรีย ประกอบกับจำนวนเว็บไซต์ของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อาจทำให้เกิดการปองร้ายชาวอังกฤษในต่างแดนก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ มีผู้ถูกจับกุมจากคดีดังกล่าวแล้ว 3 คน ไม่รวมผู้ก่อเหตุ 2 คน ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุ ซึ่งล่าสุด เพื่อนของนายไมเคิล อาเดโบลาโฮ หนึ่งในผู้ก่อเหตุค��ีสะเทือนขวัญครั้งนี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายอาเดโบลาโฮเคยถูกหน่วย MI-5 หน่วยสืบราชการลับของอังกฤษติดตามตัวและทาบทามให้เข้าร่วมงานด้วยเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน แต่เขาได้ปฏิเสธไป และยังเคยถูกหน่วย MI-5 คุกคามอีกด้วย โดยข้อมูลนี้ ยังไม่ได้รับคำยืนยันจากหน่วย MI-5 ว่าเป็นความจริงหรือไม่