ไม่พบผลการค้นหา
The Great Gatsby หนังพีเรียดย้อนยุคที่สร้างจากนิยายดัง ไปดูว่ายุค Gatsby ที่ได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งเสรี ดนตรีแจ๊ส และเฟมินิสต์ มีมนต์เสน่ห์อย่างไร

Culture Corner ประจำวันที่ 19 พฤษภาคม 2556 

 

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ที่ผ่านมา หนังที่ถูกจับตามองมากที่สุด และได้รับเลือกให้เป็นหนังเปิดเทศกาลเมืองคานส์ ก็คือ The Great Gatsby หนังพีเรียดย้อนยุคที่สร้างจากนิยายดัง ไปดูว่ายุค Gatsby ที่ได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งเสรี ดนตรีแจ๊ส และเฟมินิสต์ มีมนต์เสน่ห์อย่างไร

 

The Great Gatsby นิยายอมตะของฟรานซิส สก็อต ฟิตซ์เจอรัลด์ นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทศวรรษที่ 1920 ช่วงเวลากึ่งกลางระหว่างสงครามโลกทั้งสองครั้ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งแสงสีและเสรีภาพ รวมถึงความฟุ้งเฟ้อมากที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ด้วยความที่นิยายเรื่องนี้สะท้อนสภาพสังคมในยุคนั้นออกมาได้อย่างจัดจ้านมีสีสัน ทำให้ยุค 20s ถูกขนานนามว่าเป็นยุค Gatsby ไปโดยปริยาย

 

เอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของยุค Gatsby ก็คือแฟชั่นสตรี ที่ถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของผู้หญิงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคกลางเป็นต้นมา หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้หญิงอเมริกันได้สิทธิ์ในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และได้ออกมาทำงานนอกบ้านมากขึ้นเพื่อแทนที่ผู้ชายที่ไปรบในสงคราม ทำให้เกิดกระแสสตรีนิยม หรือเฟมินิสต์อย่างเข้มข้น เสื้อผ้าของผู้หญิงที่เคยเน้นรูปร่างทรวดทรงองค์เอวและหน้าอก แต่ปกปิดช่วงขามิดชิด ก็กลับกลายเป็นแฟชั่นเสื้อผ้าทรงตรงๆ หน้าอกแบนราบ ไม่เน้นช่วงเอว และชายกระโปรงก็สั้ันขึ้นจนถึงช่วงหัวเข่า

 

นอกจากนี้ ผู้หญิงวัยรุ่นสมัยนั้นยังนิยมตัดผมสั้น เป็นบ็อบตรงมีหน้าม้า หรือผมดัดหยิก แต่งหน้าจัดจ้านขึ้น ทาปากสีแดง และสูบบุหรี่ เข้าสังคม ดื่มเหล้า เต้นรำ ขับรถ จนมีการขนานนามผู้หญิงเหล่านี้ว่า Flapper ซึ่งเป็นคำแสลงหมายถึงหญิงสาวที่ "ปีกกล้าขาแข็ง" ทำตัวท้าทายกฎเกณฑ์ของสังคมเพื่อแสดงออกถึงสิทธิของสตรีที่เท่าเทียมกับผู้ชาย

 

นอกจากเรื่องของแฟชั่นแบบเฟมินิสต์ จิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดของยุค Gatsby ก็คือดนตรีแจ๊ส ซึ่งเริ่มขึ้นจากสังคมผิวสีในสหรัฐฯ และค่อยๆ แพร่ไปยังสังคมชั้นสูงในเมือง และลุกลามข้ามทวีปไปยังยุโรป จนกลายเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมสังคมสองทวีปและคนต่างชนชั้นเข้าด้วยกัน เรียกว่าในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีหรือคนงานที่ท่าเรือ ต่างก็ฟังเพลงของนักร้องเพลงแจ๊สที่โด่งดังอย่างหลุยส์ อาร์มสตรอง

 

แต่ดูเหมือนว่าการเข้าถึงเพลงแจ็ส จะเป็นความเท่าเทียมกันเพียงอย่างเดียวของประชาชนในยุคนั้น เพราะความฟุ้งเฟ้อของเหล่า flapper และชนชั้นสูงทวีขึ้นถึงขีดสุด ขณะที่ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างนครนิวยอร์ก ลอนดอน หรือปารีส เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่ยุคฟองสบู่แตก ที่ทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐฯและทั่วโลกตกต่ำอย่างหนักในปี 1929 ถือเป็นการสิ้นสุดยุค Great Gatsby เข้าสู่ยุค Great Depression ที่ดำเนินต่อเนื่องไปอีกกว่า 1 ทศวรรษ จนได้ชื่อว่าเป็นยุคตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ยาวนานและรุนแรงที่สุดในศตวรรษที่ 20

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog