ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.นครพนม เพื่อไทย ชี้องค์กรท้องถิ่นต้องทำงานหนักขึ้นคัดกรองเข้มหลังประชาชนแห่กลับภูมิลำเนาจากมาตรการเข้มในกรุงเทพฯ สกัดเชื้อโควิด-19 จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนสร้างความเชื่อมั่นใจ แนะใช้งบกลางให้เกิดประโยชน์แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด - 19 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก รวมทั้งเขย่าขวัญคนไทย 67 ล้านคนอยู่ในขณะนี้ คนมหาดไทย ซึ่งมีอยู่ทุกอณูทั่วประเทศ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น เข้าไปมีบทบาทในการป้องกันการแพร่ระบาดร่วมกับส่วนราชการหลัก คือ สาธารณสุขอย่างแข็งขัน ในอดีต คนมหาดไทยร่วมกับส่วนราชการหลัก คือ กระทรวงกลาโหมในการรักษาความมั่นคงของประเทศ นำชาติบ้านเมืองพ้นภัยได้

นายชวลิต ระบุว่า ไม่ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ทุกๆวัน ตนจะโทรศัพท์พูดคุยกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นอกจากให้กำลังใจในการทำงานหนักแล้ว ยังแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็นในการทำงานสำคัญว่า จังหวัดของเรา เราจะดูแลประชาชนของเราอย่างไร ที่สำคัญจะร่วมมือกันทั้งประเทศ ไม่เป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาพรวมของประเทศอย่างไร ในช่วงมีบุคคลในวงการมวย มานมัสการพระธาตุพนม ต่อมาได้โพสต์ว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้จะตึงเครียด เราก็ช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอแนะ เราไม่ได้คิดเพียงการตรวจสอบ คัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องในนครพนมเท่านั้น โดยเที่ยวบินไป - กลับ ที่บุคคลในวงการมวยเดินทาง นั้น ประกอบด้วยบุคคลใดบ้าง ภูมิลำเนาอยู่ที่ใด ไปที่ไหนบ้าง ตรวจสอบจนกระทั่งมีอีก 1 คน ยังตรวจสอบไม่ได้ เพราะหาเลขประจำตัวประชาชนไม่พบ เราก็เสนอแนะว่าให้ตรวจที่สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง แม้ชื่อ นามสกุลจะซ้ำกันจำนวนมาก ก็ต้องแจ้งทุกคน ทราบว่า ตามตัวจนพบ

ส่วนเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ได้เห็นภาพประชาชนล้นสถานีขนส่งหมอชิต ทราบว่า ประมาณ 80,000 คน เดินทางกลับภูมิลำเนาตามจังหวัดต่าง ๆแม้จะใจหาย ที่การเคลื่อนย้ายประชาชนจำนวนมากดังกล่าว อาจนำเชื้อไวรัสไปแพร่ที่บ้านตนเอง แต่เมื่อญาติพี่น้อง ลูกเรา หลานเรา เดินทางมาแล้ว เราก็ต้องรับรอง เข้ากระบวนการคัดกรอง ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กับ อสม.ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น สถานการณ์คราวนี้ มิได้ปรึกษาแต่เพียงผู้ว่าราชการจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเท่านั้น แต่ได้ลงลึกถึงนายอำเภอ และสาธารณสุขอำเภอ เพื่อลงไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น โรงพยาบาลชุมชน และ อสม.เพื่อร่วมด้วยช่วยกันป้องกันบ้านเราไว้ให้ได้อย่างสุดความสามารถ

"เราไม่อาจปฏิเสธญาติ พี่น้อง ลูกหลานของเราที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น และเราก็ไม่อยากจะโทษกันไปมา ที่กระบวนการแก้ไขปัญหาไม่เป็นระบบครบวงจร ซึ่งมาจากความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายบริหาร รัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน บทความนี้ ตั้งใจให้กำลังใจทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน เราจะผ่านพ้นปัญหาไปได้ ก็โดยร่วมแรง ร่วมใจกันทำงานหนัก รับเอาข้อเสนอดีๆ มีเหตุผลไปปรับใช้ ทุกอย่างจะคลี่คลาย ถ้าทุกภาคส่วนประสานงาน ร่วมแรง ร่วมใจกัน ไม่แบ่งเขา แบ่งเรา ที่สำคัญ ในยามบ้านเมืองมีเภทภัย คนไทยต้องมีวินัย ทั้งต่อตนเอง และส่วนรวม ผมให้กำลังใจไปว่า ให้รับญาติเรา ลูกเรา หลานเรา ที่กลับบ้าน แต่ต้องคัดกรอง ติดตาม อย่างเข้มข้น"

นายชวลิต ระบุว่า หน้าที่ของรัฐบาลกลางขณะนี้ก็คือ บริหารจัดการแก้ไขปัญหา สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในปัญหาเฉพาะหน้า อย่าให้ภาระตกอยู่กับจังหวัดที่จะคัดกรองประชาชนจำนวนมหาศาลที่กลับบ้าน ควรส่งกำลังบำรุงไปยังจังหวัด อำเภอให้เพียงพอ งบกลางต้องใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างทันท่วงที อย่าให้ท้องถิ่นใช้งบสะสมของตนเองซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน รัฐบาลต้องเร่งมาตรการในการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบครบวงจร ทราบว่า ฝ่ายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอแนวทาง มาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ในภาพรวม ให้รัฐบาลรับไปพิจารณาอีกทางหนึ่ง