ไม่พบผลการค้นหา
ระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์-ปล่อยกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด

หลังจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการกำชับตำรวจภายในสังกัดตำรวจนครบาลให้ระดมกำลังกวาดล้างจับกุม การกระทำผิดทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันออนไลน์ และหนี้นอกระบบ

โดยให้ชุดสืบสวน การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น เว็บไซต์ที่ใช้ในการเล่นการพนัน หรือการโพสต์ชักชวนให้เล่นการพนัน รวมถึงบัญชีม้า ที่ใช้ในการกระทำความผิดทุกรูปแบบด้วย โดยเร่งสั่งการให้มีการเข้มงวดและเร่งดำเนินการภายในวันที่ 1 ถึง 10 เมษายน 2567 นี้

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือเป็นผู้เสียหายจากเหตุอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือหนี้นอกระบบ สามารถแจ้งความกับตำรวจได้ทุกสถานีตำรวจ จากนั้นตำรวจจะรับเรื่องดำเนินการและเร่งไปตรวจสอบ ตามข้อร้องเรียนให้อย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างทันท่วงทีแล้ว อาจจะช่วย นำเงินกลับมาคืนให้ผู้เสียหายได้ด้วย


รวบเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ย 600% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB โดย บก.ทล. ร่วมกับ บก.ปอศ. รวบเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยสุดโหดกว่า 600% ต่อปี พบมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีการค้นบ้านพัก จำนวน 2 หลัง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี พร้อมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของ น.ส.ชญานี หรือเบล ร่วมกันจับกุม นายสายฟ้า อายุ 29 ปี

พฤติการณ์คือ เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา ขณะตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรวจการจราจรในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกหนี้นอกระบบ เข้ามาขอคำปรึกษา เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการกู้เงินนอกระบบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมข้อเท็จจริง จนทราบว่า น.ส.เอ กู้เงิน น.ส.ชญานี ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนผ่านทางเฟซบุ๊ก

 ในช่วงแรก น.ส.ชญาณี เสนอให้ผู้เสียหายกู้เงิน จำนวน 4,000 บาท โดยต้องชำระดอกเบี้ยทุกเดือน เดือนละ 2,000 บาท จนกว่าจะชำระต้นเงินคืน ซึ่งผู้เสียหายได้ชำระดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,000 บาท และจะต้องชำระค่าปรับในกรณีที่ส่งดอกเบี้ยล่าช้า โดยคิดค่าปรับเป็นรายวัน วันละ 500 บาท ในช่วงแรก ผู้เสียหายชำระหนี้ไปทั้งหมด 12,000 บาท จากการกู้ยืมเงินแค่ 4,000 บาท

ต่อมาไม่นาน น.ส.ชญาณียังได้เสนอให้ผู้เสียหายกู้ยืมเงินอีกครั้ง เป็นจำนวน 2,500 บาท ต้องชำระดอกเบี้ยทุกวัน วันละ 250 บาท จนกว่าจะชำระต้นเงินคืนทั้งหมด ซึ่งจากการกู้ยืมเงินเพียง 2,500 บาท ผู้เสียหายได้ชำระเงินต้นรวมดอกเบี้ยทั้งหมด เป็นเงิน 14,750 บาท โดย น.ส.ชญาณีจะใช้วิธีการโพสต์และส่งข้อความข่มขู่ผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก หากไม่ชำระหนี้ก็จะโพสต์ประจานให้เกิดความเสียหาย และได้มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพของผู้เสียหายในลักษณะที่เป็นการประจาน ทำให้ผู้เสียหายเกิดความอับอายจนต้องยอมจ่ายเงินให้กับ น.ส.เบล รวมเป็นจำนวนเกือบ 40,000 บาท ทั้งๆ ที่ยอดเงินต้นรวมทั้งหมดแค่เพียง 6,500 บาท ซึ่งเมื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ยคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 615 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้มาก (อัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คือ ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)

จากการสืบสวนพบว่า น.ส.ชญาณีมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดในลักษณะนี้กับลูกหนี้อีกหลายราย จนพบว่าเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมีมากกว่า 3 ล้านบาท โดยมีพฤติกรรมโพสต์ข่มขู่ ประจานลูกหนี้แต่ละราย ผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อให้เกิดความอับอายจนยอมชำระเงิน ทั้งๆ ที่ยอดชำระสูงกว่าเงินต้นหลายเท่าตัว

หลังการจับกุม น.ส.ชญาณีให้การว่าตนได้ปล่อยเงินกู้ทั้งแบบรายวันและรายเดือนจริง โดยที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจัปล่อยเงินกู้นอกระบบรายย่อยในหลักพัน แต่ลูกหนี้ส่วนใหญ่เมื่อชำระเงินกู้สำหรับเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าปรับแล้ว จะมีมูลค่ารวมสูงกว่าเงินต้นประมาณ 5-6 เท่าตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และได้เชิญตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ตำรวจไซเบอร์จับ ปล่อยกู้ดอก 20% ต่อเดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้นำหมายศาลไปตรวจค้นบ้านพักใน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง และจับกุมตัวนายสิทธิกร เอ้งฉ้วน อายุ 36 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์ ตรวจสอบพบ facebookชื่อ “Oil Unchalee” ซึ่งเป็นเพจที่พบการสนทนาปล่อยเงินกู้

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 สืบสวนผ่านทางออนไลน์ พบเพจ facebook ชื่อ “Oil Unchalee” มีการลักลอบปล่อยเงินกู้เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงสืบสวนหาตัวตนและสถานที่พักอาศัยของเจ้าของเพจ และรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดพัทลุงเพื่อเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว   

จากการสอบสวนนายสิทธิกร ให้การรับว่า ตนเองได้ทำการสนทนาดังกล่าวกับลูกค้าเงินกู้ด้วยตนเอง ของกลางทั้งหมดเป็นของตน และรับว่าตนเองลักลอบปล่อยเงินกู้เรียกรับดอกเบี้ยเกิน ปล่อยกู้ ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน เงินหมุนเวียนในบัญชีหลายล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงแจ้งข้อหา ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด