กระสุนเครื่องยิงไร้แสงสะท้อนต่อสู้รถถังเอ็ม 72 ระเบิด ที่หน้าคลังแสง ร.1 พัน 3 รอ. พระราม 5 ขณะนำอาวุธมาทำความสะอาด ส่งผลทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดย2รายมีอาการสาหัส
วันนี้ (21 เม.ย.56) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ได้เกิดเหตุกระสุนเครื่องยิงไร้แสงสะท้อนต่อสู้รถถังเอ็ม 72 ระเบิดที่บริเวณหน้าคลังอาวุธภายในกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1พัน 3 )ที่ตั้งอยู่ถนพระราม 5 เขตดุสิต เบื้องต้นทราบว่า สาเหตุการระเบิดเกิดจากผู้บังคับกองร้อยให้กำลังพลนำอาวุธมาตรวจสอบและทำความสะอาด เพื่อรอการตรวจเยี่ยมของหน่วยเหนือในสัปดาห์หน้า
สำหรับสาเหตุที่แท้จริงยังระบุชัดเจนไม่ได้ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง โดยเครื่องยิงจรวดจะมีลักษณะของเครื่องยิงและลูกระเบิดอยู่ในเครื่องเดียวกัน สาเหตุของการระเบิดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจนำมาวางโดยที่มีอากาศร้อนและทำให้ระเบิดขึ้น หรือ เกิดจากความผิดพลาดของบุคคล ซึ่งโอกาสที่จะเกิดจากความผิดพลาดของทหารมีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะกำลังพลใช้อาวุธนี้อยู่เป็นประจำแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีพลทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คนแรกได้รับบาดเจ็บที่แขน ส่วนอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บที่ขา ซึ่งค่อนข้างหนัก และขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์ รพ.พระมงกุฎแล้ว
ขณะที่ พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นคลังแสงระเบิดเป็นเพียงอาวุธที่กำลังพลนำออกมาทำความสะอาดเท่านั้น ซึ่งเป็นจรวดเอ็ม 72 ส่วนสาเหตุต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง
พ.อ.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบตามลำดับชั้นเรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์ระเบิดหลังจากที่กำลังพลได้นำอาวุธดังกล่าวมาทำความสะอาดตามวงรอบ ส่วนสาเหตุจริง ๆ คงจะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 นาย คือ1. พลทหารบัณฑิต วิจิตศักดิ์ ได้บาดเจ็บที่กระดูกขาขวาแตก และมีแผลฉีกขาดที่บริเวณขาขวา2. พลทหารกิตติภัทร ไผจังหรีด ได้บาดเจ็บที่แขนข้างซ้าย โดยนิ้วนาง และ นิ้วกลาง ของมือข้างซ้าย กระดูกแตก และขณะนี้แพทย์ได้ทำการผ่าตัดและนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระมงกุฏ ส่วนคนที่3. พลททหารจักรี ไชยรัง ได้บาดเจ็บที่ลำตัวเล็กน้อย แพทย์ได้ปฐมพยายามเบื้องต้นและให้กลับไปพักที่หน่วยต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว
Source : News Center /มติชนออนไลน์