โปรแกรมแชท MSN อำลาวงการแล้ววันนี้ พร้อมปิดให้บริการอย่างถาวร โดยให้ผู้ใช้บริการเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมสไกป์แทน
วันนี้(8 เม.ย.56)เป็นวันสุดท้าย ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จะสามารถเล่นเอ็มเอสเอ็น เมสเซนเจอร์ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนไปเป็นสไกป์ (Skype) ซึ่งถือเป็นการปิดฉากโปรแกรมแชทยอดนิยม ที่อยู่คู่สังคมออนไลน์ มานานกว่า 14 ปี
8 เมษายน 2556 ถือเป็นวันสุดท้าย ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จะได้ใช้โปรแกรมเอ็มเอสเอ็น หรือ วินโดวส์ ไลฟ์ เมสเซนเจอร์ (Windows Live Messenger) โปรแกรมแชทยอดนิยม ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก และยังเป็นโปรแกรมแชท ที่มีผู้ใช้งานในเมืองไทย สูงที่สุดโปรแกรมแกรมหนึ่ง นับตั้งแต่อินเทอร์เน็ต เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของคนไทย
เอ็มเอสเอ็น เมสเซนเจอร์ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ปี 2542 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการอีเมลของไมโครซอฟต์ อย่างฮอทเมล และเอ็มเอสเอ็น สามารถสื่อสารกันผ่านการส่งข้อความสั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้วิธีส่งอีเมลหากันเพียงอย่างเดียว ซึ่งในเวลาดังกล่าว มีเพียงเอโอแอล ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯขณะนั้น เป็นผู้ให้บริการโปรแกรมในลักษณะดังกล่าวอยู่เพียงเจ้าเดียว นับเป็นการตัดสินใจบุกตลาดอินเทอร์เน็ตที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของไมโครซอฟต์เลยก็ว่าได้
หลังจากไมโครซอฟต์ เปิดตัวโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นเวอร์ชั่นแรกได้เพียงไม่นาน ในปี 2544 ไมโครซอฟต์ก็ได้เปิดตัวเอ็มเอสเอ็นเวอร์ชั่น 2 ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์ มิลเลเนียม โดยความพิเศษของเอ็มเอสเอ็นเวอร์ชั่นนี้ คือการใส่สีตัวหนังสือ และไอคอนรูปร่างต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันว่า อิโมติคอน (Emoticon) ได้เป็นครั้งแรก
ต่อมาในปี 2548 เอ็มเอสเอ็น เมสเซนเจอร์ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น วินโดวส์ไลฟ์ เมสเซนเจอร์ เพื่อให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของไมโครซอฟต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่ผู้ใช้งานต้องการรวบรวมฟังค์ชั่นต่างๆ ไว้ในโปรแกรมเดียวกัน โดยไมโครซอฟต์ได้เพิ่มเติมฟังค์ชั่นโทรศัพท์ และการสนทนาผ่านกล้องเว็บแคม เข้าไปในโปรแกรมดังกล่าว นับเป็นโปรแกรมแชทยุคแรกๆ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งาน สามารถสนทนากันแบบเห็นภาพ และเสียง โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการ หรือไม่ต้องพิมพ์ข้อความส่งถึงกัน
โปรแกรมวินโดวส์ไลฟ์ เมสเซนเจอร์ นับเป็นโปรแกรมแชท ที่คนไทยนิยมใช้เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากมีการใช้งานที่สะดวก เข้าใจง่าย นอกจากนี้ คนไทยส่วนใหญ่ยังนิยมใช้ฮอทเมล (Hotmail) เว็บรับส่งอีเมล์ของไมโครซอฟต์ จึงทำให้ได้รับสิทธิสามารถเข้าใช้งานโปรแกรมวินโดวส์ไลฟ์ หรือเอ็มเอสเอ็น ซึ่งเป็นโปรแกรมจากค่ายเดียวกันได้โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟต์ได้ประกาศยุติการพัฒนาโปรแกรมวินโดวส์ไลฟ์ หรือเอ็มเอสเอ็น เนื่องจากทางบริษัทได้ซื้อกิจการของ สไกป์ (Skype) ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และวีดีโอคอลออนไลน์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้น ไมโครซอฟต์จึงเห็นว่า การพัฒนาโปรแกรมวินโดวส์ไลฟ์ หรือเอ็มเอสเอ็น ที่มีฟังค์ชั่นคล้ายกับสไกป์ คงไม่จำเป็นอีกต่อไป
ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนนี้เป็นต้นไป ผู้ใช้งานเอ็มเอสเอ็น หรือวินโดวส์ไลฟ์ เมสเซนเจอร์เดิม จะไม่สามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ ด้วยโปรแกรมที่มีอยู่เดิม แต่จะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมสไกป์ เพื่อเข้าสู่ระบบ โดยข้อมูล และรายชื่อของเพื่อนที่มีอยู่เดิม จะถูกนำมารวมไว้ในโปรแกรมใหม่ โดยไม่สูญหาย และนับเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทยอดนิยม ที่อยู่คู่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก มานานกว่า 14 ปี