ชายอังกฤษรายนี้ชื่อแอนโทนี แรดคลิฟ เป็นชาวเมืองนอตติงแฮมวัย 42 ปี เขาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าในระหว่างที่แวะพักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนานาชาติกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ระหว่างทางจากลอนดอนไปยังมาเลเซีย เขาจะออกจากสนามบินเพื่อไปเที่ยวชมศรีลังกาเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนไปมาเลเซีย แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของศรีลังกากักบริเวณ หลังจากเจ้าหน้าที่มองเห็นรอยสักรูปพระพุทธเจ้าที่แขนของเขา ซึ่งโผล่พ้นออกมาจากขอบเสื้อ

 

นายแรดคลิฟยังบอกอีกด้วยว่าหัวหน้า ตม.ศรีลังกาดูไม่พอใจรอยสักของเขามาก และบอกให้ส่งตัวเขากลับอังกฤษทันที โดยในระหว่างที่เขาถูกกักตัวอยู่ถึงชั่วโมงครึ่ง มีเจ้าหน้าที่หลายคนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาดูรอยสักเหมือนกับเขาเป็นตัวประหลาด และต่างก็ส่ายหัวแสดงความไม่พอใจเหมือนกัน

 

นายแรดคลิฟยืนยันว่าเขาพยายามจะอธิบายว่ารอยสักนี้ไม่ใช่การสักเล่นๆ เพราะเขานับถือศาสนาพุทธมาหลายปี และมีศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้าจริงๆ ไม่ใช่สักเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกหรือเป็นเครื่องประดับร่างกาย ที่สำคัญเขาได้รอยสักนี้มาจากพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่นับถือพุทธอย่างเคร่งครัดเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังเขา แถมยังให้ข่าวกับสื่อท้องถิ่นว่าเขาพูดจาดูหมิ่นศาสนาพุทธอีกด้วย ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วนายแรดคลิฟจะได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปยังมาเลเซียได้ก็ตาม

 

ศรีลังกาเป็นประเทศพุทธเคร่งครัด ที่มีการเอาเรื่องนักท่องเที่ยวในข้อหาดูหมิ่นพุทธศาสนามาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 3 คนถูกตัดสินจำคุกในข้อหาหมิ่นศาสนา หลังจากถ่ายรูปโดยโพสต์ท่าจูบพระพุทธรูป

 

ความเข้มงวดในเรื่องนี้ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวในศรีลังกา ถึงกับต้องออกประกาศเตือนให้พลเมืองที่ไปเที่ยวศรีลังกา ระมัดระวังไม่ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปหน้าพระพุทธรูป