กรมควบคุมโรค ยอมรับว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกในปีนี้ น่าจะมีความรุนแรง เนื่องจากในช่วง 2 เดือนแรกของปี พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงเตรียมนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทุกหน่วยงานเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายโดยเพิ่มมาตรการสำคัญคือ "ขัดไข่ยุงลาย"

แนวทางป้องกันการแพร่กระจายไข้เลือดออก  คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในภาชนะใส่น้ำจืด ที่เป็นน้ำนิ่ง ใสสะอาด เช่นในโอ่งเก็บน้ำ  ถาดรองกระถางต้นไม้ และภาชนะใส่อาหารที่ถูกทิ้งในที่แจ้ง ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะให้ประชาชนทำกิจกรรม 5ป. ปราบยุงลาย คือ

- ปิดภาชนะให้มิดชิดหลังตักใช้น้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันยุงลายวางไข่

- เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำ ทุก 7วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำกลายเป็นยุง

- ปล่อยปลาในภาชนะใส่น้ำถาวร เพื่อให้กินลูกน้ำยังลาย

- ปรังปรุงสภาพแวดล้อมให้ปลอดโปร่ง ไม่เป็นที่พักเกาะของยุงลาย

- ปฏิบัติประจำจนเป็นนิสัย

โดยในปีนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งกิจกรรมคือ 1ข. หรือ การขัดไข่ยุงลาย เพื่อตัดวงจรการฟักตัวในอนาคต

ในช่วงชีวิตของยุงลายเพศเมีย 1 ตัว สามารถมีลูกได้ประมาณ 500 ตัว ฉะนั้นหากไม่มีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ก็จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะเพียง 2 เดือนของปี 2556 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้วกว่า 11,500 คน เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 พันคน และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงช่วงการระบาดประจำปี โดยปัจจัยสนับสนุนการระบาดในรอบนี้ คือ ฝนที่ตกเป็นช่วงๆ

เป้าหมายสำคัญของกรมควบคุมโรคในปีนี้ คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้เร็วที่สุด และจะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือของภาครัฐ และประชาชนทุกพื้นที่ จึงเตรียมเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 12 มีนาคมนี้ เพื่อประกาศให้เป็นวาระเร่งด่วนด้านสาธารณสุข โดยกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานดำเนินงานกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อตัดวงจรไข้เลือดออกพร้อมกันทั่วประเทศ