ฟอร์บส์ นิตยสารด้านธุรกิจชื่อดังของสหรัฐฯ เปิดเผยผลการจัดอันดับเศรษฐีโลกประจำปี 20132 แล้ว โดยนายคาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิโก เจ้าพ่อธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม และกิจการอื่นๆ แทบจะครอบคลุมครบทุกวงการ ยังคงครองแชมป์เศรษฐีอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันอีก 1 สมัย ด้วยทรัพย์สิน 73,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท ขณะที่นายบิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ อยู่ในอันดับที่ 2 ตามมาด้วยนายอามันซิโอ ออร์เตกา เจ้าของแบรนด์เสื้อซาราชาวสเปน

 

นายออร์เตกา ยังเป็นเศรษฐีที่ทำรายได้เพิ่มมากที่สุดประจำปีนี้ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มถึงเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 6 แสนล้านบาทในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี

 

ขณะที่นายวอเรน บัฟเฟต ตกลงมาอยู่ในอันดับ 4 เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ทั้งๆ ที่เขาเองก็มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่น้อยในปีนี้

 

ส่วนมหาเศรษฐีไทยที่ติดอันดับของฟอร์บส์ ได้แก่เจ้าสัวธนินทร์ เจียรวนนท์ แห่งซีพี ติดอันดับที่ 58 มีทรัพย์สินกว่า 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4 แสนล้านบาท และนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบฟเวอเรจติดอันดับที่ 82 และ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เศรษฐีหุ้นอันดับหนึ่งของไทย และเจ้าของพฤกษา เรียล เอสเตท ติดอันดับที่ 736

 

ส่วนคุณทักษิณ ชินวัตร ติดอันดับ 882 ของโลก อันดับ 6 ของไทย มีทรัพย์สินประมาณ 50,000 ล้านบาท

 

จากตัวบุคคล มาดูแบบเป็นรายภูมิภาคกันบ้าง ปีนี้สหรัฐฯก็ยังคงครองแชมป์ประเทศที่มีเศรษฐีติดอันดับมากที่สุดในโลก ถึง 442 คน จากทั้งหมด 1,426 คน ที่ติดอันดับมหาเศรษฐีโลก รองลงมาก็คือเอเชีย ที่มีเศรษฐีติดอันดับ 386 คน ตามด้วยยุโรป ทวีปอเมริกา และตะวันออกกลางกับแอ��ริกา

 

การที่เศรษฐีอเมริกันติดอันดับเยอะ ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพราะฟอร์บส์จัดอันดับความร่ำรวยจากทรัพย์สินของคนๆ เดียว แต่ในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ทรัพย์สินมักถูกแบ่งกระจายในตระกูลที่ร่ำรวยมากกว่ากระจุกตัวที่คนๆ เดียว เรียกว่าถ้าหากเปลี่ยนจากการจัดอันดับคนรวยที่สุด มาเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เศรษฐีเอเชียต้องครองแชมป์อย่างแน่นอน