ไม่พบผลการค้นหา
ทางการจีนออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจับเจ้าพ่อยาเสพติด โดยบอกว่าเคยมีแผนการณ์ที่จะใช้ "โดรน" จับตายหน่อคำ

หลายๆคนอาจจะยังพอคุ้นชื่อของหน่อคำ เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่แห่งสามเหลี่ยมทองคำที่ถูกจับตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดทางการจีนออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบอกว่าเคยมีแผนการณ์ที่จะใช้ "โดรน" จับตายหน่อคำ


ชื่อของจายหน่อคำ เป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่แห่งสามเหลี่ยมทองคำ ผู้สืบทอดอาณาจักรไร่ฝิ่นมาจากขุนส่า หนึ่งในราชายาเสพติดที่โด่งดังที่สุดในโลก ที่ถอนตัวจากวงการเมื่อกว่า 10 ปีก่อน แต่ชื่อเสียงของเขามาโด่งดังเป็นข่าวไปทั่วโลกเมื่อเข้าไปพัวพันกับการปล้นเรือสินค้าของจีนกลางแม่น้ำโขงหลายครั้งโดยเฉพาะครั้งที่อุกอาจที่สุด มีการปล้นฆ่า ส่งผลให้ลูกเรือชาวจีนเสียชีวิตถึง 13 ราย จนทำให้การขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงถึงกับต้องหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว


คดีดังกล่าวทำให้จายหน่อคำถูกหมายหัวโดยรัฐบาลของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นลาว ไทย เมียนมาร์ จีน หรือแม้แต่กองกำลังรัฐฉานและว้าแดงในเมียนมาร์ จนกระทั่งในที่สุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เขาก็ถูกจับได้โดยทางการลาว ก่อนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในศาลมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษบริเวณรอยต่อสามเหลี่ยมทองคำของจีน ท่ามกลางการเรียกร้องจากประชาชนจีนให้ลงโทษเขาขั้นเด็ดขาด นั่นก็คือการประหารชีวิต


หลังจากจายหน่อคำถูกจับได้และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในจีน เรื่องของเขาก็ดูเหมือนจะเงียบหายไปจากความสนใจของประชาชน จนกระทั่งล่าสุดประเด็นของหน่อคำกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจีน ออกมาเปิดเผยว่าทางการจีนเคยต้องการตัวผู้ต้องหารายนี้ จนถึงกับมีการเสนอให้ใช้โดรน หรือเครื่องบินไร้คนขับ ทิ้งระเบิดเพื่อจับตายหน่อคำ


โดยก่อนหน้าที่เขาจะถูกทางการลาวจับกุม จายหน่อคำและพวกเคยหลบหนีทางการไปได้อย่างหวุดหวิดถึง 3 ครั้ง จนทำให้มีแรงกดดันรัฐบาลจีนจากภาคประชาชนสูงมาก เนื่องจากคดีสังหารลูกเรือจีนเป็นคดีสะเทือนขวัญที่เป็นที่สนใจของชาวจีนทั่วประเทศ ผนวกกับการที่หน่วยสืบสวนของจีนสืบทราบมาว่าการบุกฐานที่มั่นของจายหน่อคำ ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึก อาจต้องใช้การเดินเท้าถึง 2 กิโลเมตรบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยกับระเบิด


ข้อจำกัดดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตัดสินใจเสนอให้ใช้เครื่องบินไร้คนขับโดรน นำระเบิด TNT 20 กิโลกรัมไปทิ้งระเบิดยังแหล่งกบดานของหน่อคำ ซึ่งเป็นวิธีที่รุนแรงแต่ได้ผลที่สุด และถ้าหากมีการดำเนินการตามแผนที่ว่านี้ ก็จะถือเป็นครั้งแรกของจีนที่มีการใช้เทคโนโลยีโดรนปฏิบัติการทางทหาร


อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการโดรนที่ว่านี้ไม่ได้รับการอนุมัติจากทางการจีน เนื่องจากทางหน่วยเหนือต้องการจับเป็นหน่อคำเพื่อนำมาเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาล เพื่อให้การคลี่คลายคดีสะเทือนลุ่มน้ำโขงเป็นไปอย่างโปร่งใสภายใต้การรับรู้ของประชาชนจากหลายประเทศ


การออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องแผนการใช้โดรนของทางการจีนในครั้งนี้ ไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่เป็นการบ่งบอกว่าจีนให้ความสำคัญกับคดีโจรสลัดลุ่มน้ำโขงอย่างมากเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดเผยท่าทีมายังนานาชาติว่าจีนพร้อมใช้โดรน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางทหารที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกปัจจุบัน แม้ว่าโดรนจะเป็นเครื่องมือทางทหารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในขณะนี้ด้วยเช่นกัน จากการที่สหรัฐฯใช้โดรนโจมตีฐานที่มั่นกลุ่มก่อการร้ายในปากีสถานและอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนโดรนถูกขนานนามให้เป็น "เครื่องจักรสังหาร" ที่โหดเหี้ยมที่สุดในปัจจุบัน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog