ไม่พบผลการค้นหา
ไปดูผลงานของนายกเทศมนตรีนครบิลเบาแห่งสเปน ที่นี่สามารถพลิกฟื้นจากเมืองอุตสาหกรรมทรุดโทรมมาเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

ตัวอย่างนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องในต่างประเทศ ดูผลงานของนายกเทศมนตรีนครบิลเบาแห่งสเปน ที่นี่สามารถพลิกฟื้นจากเมืองอุตสาหกรรมทรุดโทรมมาเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมถึงรอดพ้นจากวิกฤติหนี้ในประเทศได้อย่างไร 

 

ชื่อของนครบิลเบาอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูชาวไทยมากเท่ากับเมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างบาร์เซโลนาหรือมาดริด เนื่องจากถึงแม้ว่าบิลเบาจะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเขตปกครองตนเองบาสก์ ทางภาคเหนือของสเปน แต่ที่นี่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาค เนื่องจากบิลเบาเป็นเมืองอุตสาหกรรมเก่าแก่ที่ผ่านพ้นยุครุ่งเรืองมาแล้ว ทำให้เศรษฐกิจของเมืองตกอยู่ในภาวะซบเซา ผู้คนว่างงาน และการค้าขายในพื้นที่ก็เป็นไปอย่างไม่คึกคัก

 

แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์ที่ว่านี้ได้เปลี่ยนไปจาก 2 ปัจจัยสำคัญ นั่นก็คือการเปิดพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์เมื่อปี 2540 ตามมาด้วยการได้รับเลือกตั้งของนายกเทศมนตรีอิญากี อัซกูนาในอีก 2 ปีถัดมา

 

เมื่อพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเปิดให้บริการ หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่านี่เป็นความพยายามที่สูญเปล่าในการพลิกฟื้นบิลเบาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่นายกเทศมนตรีอัซกูนากลับพิสูจน์ให้เห็นว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของบิลเบาได้ เขาใช้พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์เป็นจุดเด่นในการสร้างภาพลักษณ์ของบิลเบาใหม่ ให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมร่วมสมัยและการท่องเที่ยวของยุโรป

 

และภายในระยะเวลาไม่นาน กุกเกนไฮม์ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ในแต่ละปี มีผู้เดินทางมายังบิลเบาเฉลี่ยถึง 700,000 คน จากเดิมที่อยู่ที่ประมาณ 100,000 คนเท่านั้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทำให้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงธุรกิจในสาขาบริการอื่นๆ กลับมาคึกคัก จนกระทั่งในปัจจุบัน มีการประเมินว่าพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์เพิ่ม GDP ให้กับแคว้นบาสก์มากกว่า 2 พันล้านยูโร หรือ 8 หมื่นล้านบาท และทำให้รัฐบาลท้องถิ่นบิลเบาเก็บภาษีเพิ่มได้ถึง 100 ล้านยูโร หรือ 4,000 ล้านบาท

 

นอกจากผลงานอันโดดเด่นในการใช้พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์สร้างรายได้ให้แก่บิลเบา ภายใต้การบริหารงานของนายอัซกูนา บิลเบายังกลายเป็นนครที่ปลอดหนี้สาธารณะท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจอันย่ำแย่ของสเปน โดยนายอัซกูนาได้บริหารรายได้มหาศาลจากการท่องเที่ยว ผนวกกับการควบคุมรายจ่ายอย่างเคร่งครัด ทยอยชำระหนี้สะสมจนครบเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเมืองตัวอย่างในด้านการบริหารงบประมาณโดยไม่ต้องพึ่งพางบจากรัฐบาลกลางที่กำลังใกล้ล้มละลายของสเปน

 

ท่ามกลางความสำเร็จทั้งหมดนี้ นายอัซกูนายังคงกล่าวว่าเขายังมีโครงการที่ต้องทำอีกมาก และยังฝากแง่คิดเกี่ยวกับนโยบายแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนไว้อย่างน่าสนใจว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจของบิลเบา ไม่ใช่เมกะโปรเจ็กยักษ์ใหญ่ แต่เป็นการสร้างความเท่าเทียมทางรายได้ เพื่อให้ทั้งเมืองเติบโตอย่างสมดุลไปพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog