เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
พระราชพิธีออกพระเมรุพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยจะมีพิธีการต่างๆ ต่อเนื่องไปอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติเป็นเวลา 3 วัน ก่อนถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระราชพิธีออกพระเมรุพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยจะมีพิธีการต่างๆ ต่อเนื่องไปอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติเป็นเวลา 3 วัน ก่อนถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระราชพิธีออกพระเมรุพระบรมศพของสมเด็จพระนโรดมสีหนุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 ก.พ.56) เริ่มขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางการกัมพูชาได้จัดให้มีการเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระบรมศพของสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ จากพระบรมมหาราชวัง แห่รอบพระนครเป็นระยะทางทั้งสิ้น 6 กิโลเมตร ท่ามกลางการเฝ้าแหนของพสกนิกรชาวกัมพูชาเรือนล้าน ที่มาร่วมถวายความอาลัยแด่อดีตกษัตริย์ผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมทั้งชมความงามของริ้วขบวน ก่อนพระบรมศพจะถูกอัญเชิญไปประดิษฐานเหนือพระจิตกาธานภายในพระเมรุมาศ ซึ่งได้รับการแกะสลักให้มีลักษณะเป็นลูกลอยทองคำคล้ายนกในตำนานของกัมพูชา
โดยหลังจากการประดิษฐานพระบรมศพบนพระเมรุมาศเสร็จสิ้น กองทหารรักษาพระองค์ได้ยิงปืนใหญ่ 101 นัด เพื่อเป็นสัญญาณบอกการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของพระราชพิธีออกพระเมรุ
พระบรมศพจะประดิษฐาน ณ พระเมรุมาศเพื่อให้ประชาชาชนมาถวายสักการะเป็นครั้งสุดท้าย และมีการสมโภชน์ฉลองพระเมรุตสโบราณราชประเพณี ก่อนที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ โดยพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชาพระองค์ปัจจุบัน ผู้เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระราชอัครมเหสี นโรดม มุนีนาถ หรือสมเด็จพระราชินีโมนิก พระราชมารดา ไปเป็นประธานในการพระราชทานเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระราชบิดา
โดยในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะมีบุคคลสำคัญจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมพระราชพิธีไม่ว่าจะเป็นนายฌอง มาร์ก เอรูต์ นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส เจ้าฟ้าชายฟุมิฮิโตะ อะกิชิโนะ ของญี่ปุ่น ตลอดจนผู้นำในประเทศอาเซียน รวมทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็จะไปร่วมพระราชพิธีนี้ด้วยเช่นกัน
ในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนีจะทรงพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษรวมทั้งสิ้น 412 คน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระราชบิดา โดยหนึ่งในนั้นก็คือนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ซึ่งถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อปี 2554 ในข้อหาล่วงล้ำเขตแดนกัมพูชา ส่วนนายวีระ สมความคิด ที่ถูกจับกุมพร้อมกัน จะได้รับการลดโทษเป็นเวลา 6 เดือน แต่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิง จะมีพระราชพิธีเก็บพระอัฐิต่อในวันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยพระบรมอัฐิของพระองค์จะถูกอัญเชิญไปเก็บรักษาไว้ในพระบรมโกศทองคำ ก่อนจะมีการอัญเชิญไปประกอบพิธี ณ โตนเล จตุมุข ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำโขงเหนือ โขงใต้ โตนเลบาซะ และโตนเลสาบมาบรรจบกัน และอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์ภายในพระบรมมหาราชวังต่อไป
ทั้งนี้ ในระหว่างการประกอบพระราชพิธีพระบรมศพ รัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศให้สถานที่ราชการ และอาคารพาณิชย์ทุกแห่งทั่วประเทศลดธงลงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุทุกแห่งระงับการออกอากาศ รายการบันเทิงทุกประเภทเป็นเวลา 7 วัน และยังขอความร่วมมือให้ประชาชนในการงดการจัดงานรื่นเริง หรืองานเลี้ยงต่างๆ ตลอดช่วงการจัดงานพระราชพิธีอีกด้วย