นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดงาน Thailand social expo 2019 Partnership for Sustainability ว่ารัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินมา 5 ปี โดยการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เกิดความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล แต่มีความจำเป็นหลายอย่างที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ทันทีหลังการเลือกตั้ง

การจัดตั้งรัฐบาลจึงสามารถทำได้ทันทีเช่นกัน โดยเฉพาะรัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งถึงวาระที่ประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพ หลังจากที่เป็นเจ้าภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ต้องจัดประชุมสองหน คือในช่วงต้นปีและปลายปี

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เมื่อรัฐบาลใหม่ไม่สามารถจัดตั้งได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ หากจัดตั้งรัฐบาลก่อนการจัดประชุมอาเซียนเพียงไม่กี่วัน รัฐบาลที่เข้ามาใหม่ รัฐมนตรีที่เข้ามาใหม่ จะไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง ทั้งไม่สามารถเตรียมตัวเตรียมใจได้ทัน ไม่มีโอกาสรู้ถึงหัวข้อเจรจา การจัดเตรียมพิธีในการต้อนรับผู้นําทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งมีทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาประชุมในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องให้รัฐบาลเก่า นายกรัฐมนตรีคนเดิม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนเดิม และรัฐมนตรีอื่นๆ คนเดิมทำหน้าที่ต่อไป จนกระทั่งบัดนี้การจัดประชุมอาเซียนได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ตอนนี้จึงเข้าสู่ช่วงของการจัดตั้งรัฐมนตรีใหม่ได้ 

ทั้งนี้ ได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อพิจารณาเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณรับหน้าที่ การแถลงนโยบายต่อสภาฯ และเริ่มลงมือบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะสำเร็จได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามโรดแมปหรือแผนและขั้นตอนทุกประการ

นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า ในรอบ 5 ปีที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลได้ดำเนินการในหลายอย่างที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้ความช่วยเหลือทุกช่วงวัย ให้ความช่วยเหลือทุกอาชีพ ให้ความช่วยเหลือทุกเพศ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่อาจเป็นที่น่าเสียดายและน่าเสียใจหากสิ่งที่รัฐบาลได้ทุ่มเทเป็นเงินงบประมาณจำนวนมาก แล้วประชาชนไม่รู้และเข้าไม่ถึง จึงไม่เกิดการพัฒนา ดังนั้นจึงหวังว่าเมื่อมาเที่ยวงานนี้แล้วจะทราบถึงการช่วยเหลือของรัฐบาล

โดยปัญหาสังคมตกค้างมานานปี ฉะนั้นการแก้ปัญหาสังคมจึงต้องคำนึงถึงอดีต ปัจจุบัน และคำนึงถึงอนาคตไปพร้อมกัน จะตัดตอนเฉพาะปัญหาใด เรื่องใด เข้ามาไม่ได้ ทุกวันนี้มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามากมาย รัฐบาลรับทราบต้องนำปัญหาที่เป็นพันเป็นหมื่นนั้น มาจัดลำดับความสำคัญ จัดลำดับความเร่งด่วน และจัดการแก้ไขปัญหาไปตามทรัพยากร งบประมาณ กำลังความรู้ความคิดและเวลาที่มีอยู่ เพราะไม่สามารถดลบันดาลให้ปัญหาหมดไปในพริบตาเดียวได้