บริษัทผู้ผลิตยาแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (28 มิ.ย.) ว่าบริษัทยืนยันมีกำหนดปฏิบัติตามพันธกรณีในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 แก่บรรดาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ก่อนหน้านี้้จะมีความล่าช้าในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบในภูมิภาคดังกล่าว
แอสตร้าเซนเนก้า เผยกับรอยเตอร์ว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตวัคซีนของแอสตร้าฯ กำลังจะได้รับส่งมอบวัคซีนครบตามโควตาที่ตกลงกันไว้ 6 ล้านโดสภายในเดือนนี้ หลังก่อนหน้านี้ส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 4.7 ล้านโดส ตามแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทยขณะนี้การส่งออกวัคซีนไปยังชาติอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามคำสั่งซื้อจะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม
ในแถลงการณ์ของแอสตร้าเซเนก้าประเทศไทย ระบุว่า บริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ซึ่งเป็นพันธมิตรของแอสตร้าฯ จะผลิตวัคซีนได้ถึง 180 ล้านโดสในปีนี้ซึ่งมากกว่าหนึ่งในสามสำหรับวัคซีนในประเทศไทย และสองในสามสำหรับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แอสตร้าเซนเนก้าจะดำเนินการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้จะเริ่มส่งออกวัคซีนไปยังประเทศต่างๆ ในต้นเดือนกรกฎาคม โดยหนึ่งในสามของกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศได้ถูกสำรองไว้เพื่อผลิตวัคซีนให้กับประเทศไทย ตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของวัคซีนจำนวน 180 ล้านโดสที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์ ส่วนการผลิตที่เหลืออีกสองในสามจะจัดสรรให้กับการผลิตวัคซีนเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและสยามไบโอไซแอนซ์ ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานะการผลิต หรือปริมาณคำสั่งซื้อในแต่ละประเทศ ช่วงที่ผ่านมา การส่งมอบวัคซีนที่ล่าช้าของแอสตร้าเซนเนก้า ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนของหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต่างพึ่งพาวัคซีนโควิดของแอสตร้าฯ ซึ่งนอกจากไทยที่เป็นฐานการผลิตแล้ว ยังรวมถึง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขไทยได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์เช่นกันว่า ผลศึกษาประสิทธิผล'วัคซีนซิโนแวค' ในโลกความเป็นจริงของ 4 พื้นที่ในประเทศไทยคือ ภูเก็ต-สมุทรสาคร-เชียงราย นั้นกรมควบคุมโรค พบป้องกันติดเชื้อ 71-91 % อีกทั้งการรับวัคซีนครบทั้งสองเข็มยังมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงการเสียชีวิต และป่วยรุนแรงได้ถึง 95%
ผลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนของบริษัทซิโนแวค ในการป้องกันการติดเชื้อจากการใช้จริงในประเทศไทยช่วงเม.ย.-พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของสายพันธุ์อัลฟา (พันธุ์อังกฤษ) โดยพบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มอย่างน้อย 14 วัน มีประสิทธิผลในการลดการติดเชื้อสายพันธุ์อัลฟาได้ 71 - 91 % โดยแยกการศึกษาในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่จ.ภูเก็ต มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อ 90.7 % จ.สมุทรสาคร 90.5 % ส่วนการศึกษาในกลุ่มบุคลากรสาธารณสุขจากเหตุการณ์การติดเชื้อที่ จ.เชียงราย 82.8 % และจากฐานข้อมูลกรมควบคุมโรค ศึกษาในบุคลากรสาธารณสุข พบมีประสิทธิผล 70.9 % โดยคนที่ได้รับวัคซีน ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตจากโควิด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่รวมตัวแปรจากการแพร่ระบาดของเชื้อเดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) ซึ่งกำลังถูกพบระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และยังคงต้องรอการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนภายใต้ตัวแปรดังกล่าวต่อไป