ชมวัดหลิงกวง หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของจีน อันเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว พระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าหนึ่งเดียวในโลก

 

ถึงแม้ว่าประเทศคอมมิวนิสต์อย่างจีน จะประกาศตัวว่าไม่ได้นับถือศาสนาใด ตามหลักการสังคมนิยมแบบมาร์กซ์ แต่ชาวจีนส่วนใหญ่ก็ยังคงยืนยันว่าพวกเขาเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของจีนมานับพันปี

 

และสิ่งที่พิสูจน์ความศรัทธาของชาวจีนที่มีต่อพุทธศาสนาได้ดีที่สุด ก็คือวัดหลิงกวง หรือวัดแสงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนชาวจีนมาทำบุญกันอย่างไม่ขาดสาย

 

วัดหลิงกวงตั้งอยู่ชานกรุงปักกิ่ง โอบล้อมด้วยภูเขาและทัศนียภาพอันสวยงาม ตัววัดไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในจีน และเป็นที่เก็บสะสมโบราณวัตถุต่างๆ เช่นฉากไม้แกะสลักปิดทองขนาดใหญ่นี้ เป็นของโบราณจากพระราชวังต้องห้าม ที่นายโจวเอินไหล อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน มอบให้แก่ทางวัด

 

แต่จุดสำคัญที่ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนชาวจีนนิยมมาทำบุญกันอย่างเนืองแน่น ก็คือสถูปซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า

 

ภายในสถูปแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งบรรจุอยู่ในพระเจดีย์ทองคำหนักถึง 150 กิโลกรัม โดยสถูปแห่งนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะเพียงปีละ 2 ครั้ง ชาวจีนที่มานมัสการพระเขี้ยวแก้ว ส่วนใหญ่จึงต้องใช้วิธีเดินเวียนเทียนรอบๆสถูปเท่านั้น

 

นอกจากการสักการะพระเขี้ยวแก้ว ที่วัดยังมีกิจกรรมสำหรับทั้งพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ หรือจะจับจ่ายซื้อเครื่องรางและของที่ระลึกจากทางวัด

 

และที่สำคัญ วัดหลิงกวงยังมีร้านน้ำชาที่ตกแต่งอย่างสวยงามตามแบบจีนโบราณไว้คอยบริการ ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้จิบชาร้อนๆคลายความหนาวกันอีกด้วย โดยชาที่นี่เป็นชาอย่างดี และชงตามธรรมเนียมจีนดั้งเดิม ที่ต้องมีการลวกใบชาด้วยน้ำร้อนก่อนชง และต้องจิบชาจากถ้วยกระเบื้องเคลือบที่บางเฉียบ ซึ่งจะทำให้ได้รสชาติชาที่หอมกรุ่นเต็มที่ สมกับที่จีนเป็นเจ้าตำรับผู้คิดค้นการดื่มชาเป็นประเทศแรกในโลก