ไทย แม้จะพบกับชัยชนะ เหนือสิงคโปร์ ที่ สนามศุภชลาศัย แต่เป็นเพียงชัยชนะประตูเดียวจากผลงานของ กีรติ เขียวสมบัติ ซึ่งเมื่อรวมผลสองนัด สิงคโปร์ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 หลังประตูรวม 2 นัดชนะไป 3-2 นอกจากนั้นยังเป็นแชมป์มากที่สุดในการแข่งขันในรายการนี้ด้วย

ผลฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012
รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง
วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2555
ไทย - สิงคโปร์
สนาม : ศุภชลาศัย
ประตู  :1-0 กีรติ เขียวสมบัติ น.45+1
 

ฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012" รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2  ทีมชาติไทย พบกับ สิงคโปร์ ซึ่งนัดแรกไทยบุกไปแพ้มา 1 ประตูต่อ 3 โดย ทีมชาติไทย จะใส่ชุดเก่งสีแดงล้วน ส่วน สิงคโปร์ ใส่สีน้ำเงินล้วนลงสนาม   สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมชาติไทย "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชของไทย  ไม่มีชื่อของ  อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่เจ็บหน้าแข้งข้างซ้ายจากนัดแรกส่วน ดัสกร ทองเหลา, ภานุพงศ์ วงศ์ษา และ อดุลย์ หละโสะ ผ่านความฟิตลงสนามได้ และเปลี่ยนจากระบบ 4-5-1 มาเป็นระบบ 4-4-2 โดยวาง ธีรศิลป์ แดงดา ที่นำดาวซัลโวรายการนี้อยู่ที่ 5 ประตูเป็นคู่กับ กีรติ เขียวสมบัติ ในเกมรุก

ขณะที่  ราดอจโก้ อัฟราโมวิช เทรนเนอร์ของ สิงคโปร์ ไม่มีผู้เล่นติดโทษแบน พร้อมส่งชุดที่ดีที่สุดและเป็นชุดเดียวกับในเกมแรก แม้ต้องเจอปัญหาแข้งตัวหลักบาดเจ็บ ฮาริสส์ ฮารุน มิดฟิลด์รองกัปตันทีมกระดูกเท้าแตก และ ฉี เจีย-ยี่ ห้องเครื่องตัวกลั่นต้องกลับไปเฝ้าภรรยาที่กำลังจะคลอดลูกถอนตัวออกจากนัดนี้ไปเรียบร้อย ซึ่งเกมรุก ไครูล อัมรี่ ล่าตาข่ายร่วมกับ   อเล็กซานเดอร์ ดูริค

นาที 14 ทีมไทยมีลุ้นจากจังหวะที่  ธีราทร บุญมาทัน เติมขึ้นไปทางซ้าย และหลุดเข้าไปในกรอบแต่จังหวะสุดท้ายถึงบอลช้า โดนผู้่เล่นสิงคโปร์ เตะออกหลังได้แค่เตะมุมเท่านั้น  

นาทีต่อมา ไทยพลาดการได้ประตูเมื่อ  โมฮาเหม็ด อิซวาน มาห์บุด รับบอลไม่อยู่ บอลมาถึง จักรพันธ์ พรใส โหม่งแต่ลูกพุ่งไปชนคานดังสนั่น ก่อนแนวรับ สิงคโปร์ เคลียร์ทิ้งออกไปได้

เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแม้ทีมไทยจะมีลุ้นหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถเรียกสกอร์แรกให้แฟนในสนาม ศุภชลาศัย ได้เฮได้  

หลังจากเจาะไม่เข้า ทีม "ช้างศึก"ลองเปลี่ยนมายิงไกล แต่ อดุลย์ หละโสะ ก็ส่องไม่ตรงกรอบ ในนาทีที่ 39

ก่อนเข้าไปพัก 2 นาที ชลทิตย์ จันทคาม เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ สอดขึ้นมาโหม่งจากลูกเตะมุม แต่ทว่าโหม่งไม่ดีลูกข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

แต่แล้วช่วงทดเจ็บ  ไทย ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากลูกฟรีคิกที่เปิดจากด้านซ้ายของ ธีราทร บุญมาทัน  มาให้ กีรติ เขียวสมบัติ โขกเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก ไทย นำ 1-0 สกอร์รวมสองนัดไทยไล่มาเป็น 2-3

ออกสตาร์ตครึ่งหลัง ไทย ที่ต้องการอีกหนึ่งประตู ยังคงลุยใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงของเกม แนวรับของทีม "ลอดช่อง"ยังไม่พลาดเป็นหนที่ 2

นาที 67 กีรติ เขียวสมบัติ มีโอกาสทองที่จะทำประตูที่ 2 ให้ตัวเอง และทีม แต่จังหวะสุดท้ายลูกกระดอนพื้นทำให้ยิงข้ามคานออกหลังอย่างน่าเสียดาย

อีก 2 นาทีต่อมา เชเฟอร์ เสริมเกมรุกด้วยการส่ง พิภพ อ่อนโม้ ลงไปเพิ่ม และถอดกองกลาง  ดัสกร ทองเหลา ออกมาพัก

นาที 80 พิภพ อ่อนโม้  ชิงจังหวะโหม่ง ก่อนโมฮาเหม็ด อิซวาน มาห์บุด แต่ผู้ตัดสินให้ พิภพ เสียฟาวล์

อีก 5 นาที ชลทิตย์ จันทคาม ได้ยิงเล่่นเอา ผู้รักษาประตูสิงคโปร์ ต้องอัดทิ้งออกไป

ช่วงทดเจ็บ อภิภู สุนทรพนาเวศ อีกหนึ่งตัวสำรองของไทยได้ยิงแต่บอลไปแฉบผู้เล่นทีมเยือนหลุดเสาออกไปนิดเดียว จบเกม ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 แต่ทว่ารวมผลสองนัด สิงคโปร์ คว้าแชมป์ ด้วยประตูรวม 3-2 และถือเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ในรายการนี้


รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
ไทย (4-4-2) : กวิน ธรรมสัจจานันท์ ; ปิยพล บรรเทา, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ชลทิตย์ จันทคาม, ธีราทร บุญมาทัน ; พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, อดุลย์ หละโสะ, ดัสกร ทองเหลา, จักรพันธ์ พรใส ; ธีรศิลป์ แดงดา, กีรติ เขียวสมบัติ
เทรนเนอร์ : วินฟรีด เชเฟอร์

สิงคโปร์ (4-1-3-2) : โมฮาเหม็ด อิซวาน มาห์บุด ; ไชฟูล เอซาห์, ไบฮักกี ไคซาน, ซาฟูวาน บาฮารูดิน, ดาเนี่ยล เบนเน็ตต์ ; อิซา ฮาลิม ; ฟารุดดิน มุสตาฟิก, ชาห์ดาน ซูไลมาน, ชาห์ริล อิชัก ; ไครูล อัมรี่, อเล็กซานเดอร์ ดูริค
 เทรนเนอร์ : ราดอจโก้ อัฟราโมวิช

ผู้ตัดสิน : ราฟซาน อีมาต๊อบ (อุซเบกิสถาน)