กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุปัญหาการลักลอบล่าช้างป่านำงาไปทำผลิตภัณฑ์เพื่อขาย และการลักลอบนำเข้างาช้างที่ผิดกฎหมายที่ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งผู้ประกอบการให้ยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์ และจัดทำระบบควบคุมการค้างาช้างบ้านและผลิตภัณฑ์ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนมกราคมปีหน้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมศุลกากร และตำรวจ สามารถจับกุม นายชาวเวียดนาม พร้อมงาช้างแอฟริกัน จำนวน 11 ท่อน ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยผู้ต้องหาเดินทางจากประเทศเอธิโอเปีย ผ่านประเทศไทย เพื่อที่จะเดินทางต่อไปประเทศกัมพูชา ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการจับกุมการลักลอบขนงาช้างแอฟริกาเข้าประเทศได้มากกว่า 10 ตัน
ขณะนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แจ้งผู้ประกอบการค้างาช้าง เช่น โรงงานแปรสภาพ แกะสลัก และหัตถกรรมจากงาช้าง ต้องยื่นขอจจดทะเบียนพาณิชย์ และจัดทำระบบควบคุมการค้างาช้างบ้านและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุรินทร์ ภูเก็ต เชียงใหม่และกรุงเทพ
ทั้งนี้โดยภาพรวมพบว่าปี 55 สามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าทั่วประเทศได้ จำนวน 668 คดี สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 702 คน ยึดสัตว์ป่าของกลางได้ 14,690 ตัว ยึดซากสัตว์ของกลางได้ 3,298 ซากสัตว์ป่าของกลาง เช่น เต่า งู เสือ ช้าง ลิง และนก
และเนื่องจากวันที่ 26 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ในปีนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทารุณสัตว์ป่าและการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย ภายใต้หัวข้อว่า "หยุดกิน หยุดล่า หยุดลักลอบค้า ร่วมใจรักษาสัตว์ป่าทั่วไทย" ในวันที่ 22-26 ธันวาคมนี้ ที่สวนสัตว์ดุสิตอีกด้วย