พ่อแม่ชาวฮ่องกงบางราย ยินยอมจ่ายเงินเดือนละ120,000 บ. จ้างติวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพื่อให้มากวดวิชาลูกๆ เป็นการส่วนตัว
พ่อแม่ชาวฮ่องกงบางราย ยินยอมจ่ายเงินเดือนละ120,000 บ. จ้างติวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพื่อให้มากวดวิชาลูกๆ เป็นการส่วนตัว หวังให้ลูกได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ
คู่สามีภรรยาในฮ่องกง ยินยอมว่าจ้างติวเตอร์ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาสอนลูกทั้งสองคนเป็นการส่วนตัว เพื่อเตรียมความพร้อมและปูทางให้ลูกสอบเข้าในมหาวิทยาลัยชั้นนำของระดับไอวี่ ลีกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
โดยติวเตอร์ที่มาทำการสอนนั้น จะทำหน้าที่เหมือนกับพ่อแม่คนที่ 2 ของเด็ก เนื่องจากเขาจะต้องดูแลและกวดขันเด็กๆ ตลอดทั้งวัน และจะพักค้างคืนอยู่ที่บ้านของเด็กคนนั้น โดยการสอนในลักษณะนี้ เป็นการสอนภายใต้แพ็คเกจแบบเข้มข้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เมื่อเทียบกับการกวดวิชาในแบบอื่นๆ โดยติวเตอร์จะได้รับค่าเหนื่อยเดือนละ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 120,000 บาท
แต่ล่าสุด ได้เกิดกรณีการฟ้องร้อง ที่เป็นข่าวคึกโครมไปทั่วฮ่องกง เมื่อติวเตอร์ที่รับหน้าที่กวดวิชาให้แก่ลูกๆ ของเจอร์ราร์ด และลิลี่ เฉา เศรษฐีเจ้าของธุรกิจจิวเวอลี่ ถูกครอบครัวดังกล่าวฟ้องร้อง โดยอ้างว่า ติวเตอร์ทำผิดสัญญา และได้รับค่าเหนื่อยที่มากเกินจริง แต่ติวเตอร์คนดังกล่าว กลับยืนยันว่า เจอร์ราร์ดเลิกว่าจ้างเขา เพราะได้ติวเตอร์ใหม่ ที่คิดค่าจ้างที่ถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าว นำมาซึ่งคำถามมากมาย ที่เกิดขึ้นในสังคมฮ่องกง ว่าพ่อแม่มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ในการลงทุนว่าจ้างติวเตอร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ มากวดวิชาลูกของตน ซึ่งที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า พ่อแม่บางคน ยอมทุ่มเงินมหาศาล เพียงเพื่อให้ลูกๆ ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และค่านิยมดังกล่าว ก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากสังคมของชาวเอเชียนั้น จะให้ความส��คัญกับการศึกษามากเป็นพิเศษ เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่เชื่อว่า หากลูกของตนได้รับการศึกษาที่ดี ก็จะส่งผลต่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน และคุณภาพชีวิต
ทั้งนี้ จากผลสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่ามีชาวฮ่องกงมากถึง 8,136 คน ที่เข้าเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งกว่าที่เด็กกลุ่มนี้ จะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนชั้นนำในสหรัฐฯนั้น พวกเขาต้องผ่านการกวดวิชาอย่างหนัก โดยระหว่างนี้ หน่วยงานหรือองค์กรที่ให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อในต่างประเทศ รวมถึงสถาบันกวดวิชา จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ จนทำให้ธุรกิจประเภทดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็วในฮ่องกง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา