รูดม่าน หอเกียรติภูมิรถไฟ รอส่งมอบพื้นที่ให้ รฟท.ไปใช้โชว์ฝีมือ อวดผลงานการเดินรถจากยุครุ่งเรืองถึงยุคปัจจุบัน เจ้าของย้ายหัวรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์แล้ว

ปิดตำนานหอเกียรติภูมิรถไฟไทย โดยสถานที่แห่งนี้ ยืนหยัดทำหน้าที่ เก็บรักษา ประวัติศาสตร์รถไฟไทย ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองในวันวาน จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งได้ปิดให้บริการประชาชนวันสุดท้ายเมื่อวานนี้ ตรงกับวันปิยมหาราช โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (24 ต.ค.255) จะมีการเก็บและย้ายอุปกรณ์รถไฟออก เพื่อคืนพื้นที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อทำพิพิธภัณฑ์ต่อไป

ซึ่งสถานที่แห่งนี้ มีการเก็บรักษา หัวรถจักรไอน้ำ ที่เคยวิ่งจากสูงเนินไปโคราชอายุกว่า 100 ปี สัญลักษณ์ของรถไฟในอดีต เป็นหนึ่งในตู้รถไฟที่นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟไทย จะขนย้ายออกไปที่อำเภอสูงเนินที่อยู่เดิมของรถจักรไอน้ำในอดีต ซึ่งอยู่ระหว่างจัดหาสถานที่ รวมถึงตู้รถพยาบาลไม้สักทองฝีมือคนไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเช่นกัน 

ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟไทย ยังกล่าวว่า  การปิดฉากหอเกียรติภูมิรถไฟเป็นเพราะทางรฟท.ต้องการนำพื้นที่ไปทำพิพิธภัณฑ์ด้วยตนเอง โดยจะคืนพื้นที่ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ตามข้อตกลง พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาของรฟท.ที่ว่า ไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้ดูแลเพราะหากำไรจากที่แห่งนี้ ว่าเป็นเพียงขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีกำไรมากมาย อีกทั้งค่าเข้าชมก็ฟรี

พร้อมบอกด้วยว่า ในวันอังคารหน้าจะเข้าไปสอบถามความชัดเจนและความคืบหน้าการสร้างพิพิภัณฑ์รถไฟจากรฟท.ด้วย จะได้หมดห่วงและเป็นไปตามเจตนารมย์ของบิดา นายสรรพสิริ วิริยศิริ อดีตประธานบอร์ดรฟท.ที่อยากให้ประชาชนมีพิพิธภัณฑ์รถไฟให้ลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้

ขณะที่บรรยากาศ วันสุดท้ายก่อนปิดฉากของหอเกียรติภูมิรถไฟไทย ตั้งแต่เช้าถึงเย็นมีประชาชนเดินทางเข้าเยี่ยมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และจากการสอบถามส่วนใหญ่รู้สึกเสียดายที่หอเกียรติภูมิรถไฟไทยได้ปิดตัวลง และอยากให้เปิดต่อเพราะอยากให้มีไว้ให้ประชาชนได้รู้ถึงรถไฟไทยในอดีต โดยสถานที่แห่งนี้มีการเก็บรักษาอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินรถไฟไว้จำนวนมาก อาทิ ระฆังสัญญาณ ตู้พยาบาลไม้สักทอง เครื่องแบบพนักงานรถไฟ เป็นต้น