'หมวดเจี๊ยบ' หวัง 'ประยุทธ์' ปรับครม.เพื่อเพิม่ประสิทธิภาพการทำงาน มากกว่าเพื่อตอบแทนผู้ที่เคยมีส่วนช่วยในการยึดอำนาจ ชี้ขณะนี้ประชาชนเริ่มแสดงความเบื่อหน่ายรัฐบาลมากขึ้น
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากการปรับ ครม. ครั้งนี้ มีการมอบเก้าอี้เพื่อตอบแทนผู้ที่เคยมีส่วนช่วยในการยึดอำนาจแล้วล่ะก็ น่าเป็นห่วงว่าสถานการณ์ของรัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะยิ่งตกต่ำลง เพราะขณะนี้ประชาชนเริ่มแสดงความเบื่อหน่ายรัฐบาลมากขึ้น เพราะทำงานไร้ประสิทธิภาพ แถมยังใช้เงินเก่งและไม่ยอมให้ประชาชนตรวจสอบ ซึ่งแม้แต่โพลที่เคยเชียร์รัฐบาลมาตลอด เช่น ซุปเปอร์โพล ก็ยังระบุว่า ความนิยมที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลดลงถึง 26 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ หวังว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะไม่เอาอย่าง นาย มีชัย ฤชุพันธ์ ที่ตั้งลูกสาวมาเป็นเลขาฯ เพื่อให้ช่วยเก็บความลับ เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ทำแบบเดียวกับ นาย มีชัย โดยการแต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่นหรือคนใกล้ชิดมาเป็นรัฐมนตรีอีก ก็อาจถูกโจมตีได้ว่าวางตัวเด็กในคาถาเข้ามาช่วยรักษาความลับเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อผลาญงบประมาณแผ่นดินอีก ใช่หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ การแต่งตั้งโดยใช้ระบอบอุปถัมภ์มันผิดหลักการบริหารสมัยใหม่ และจะทำลายองค์กร ไม่ต่างอะไรกับการใช้เส้นสายวิ่งเต้นเข้าทำงาน อาจทำให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการคอรัปชั่นโดยไม่สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ควรออกมาชี้แจงด้วยตนเองว่า ที่สั่งย้ายอธิบดีกรมการจัดหางานนั้น เป็นเพราะเขาไม่ยอมจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตามูลค่าพันล้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็นนั้น เป็นความจริงตามข่าวของสื่อมวลชนหรือไม่ การปล่อยให้ปลัดกระทรวงแรงงานออกมาแก้ตัวแทนโดยการส่งแฟ็กซ์ไปตามสำนักข่าวนั้นไม่ทำให้สังคมหายสงสั เพราะก็เป็นไปได้ว่าตัวปลัดกระทรวงเองอาจกลัวโดนย้ายเลยต้องพูดแบบนี้ หาก พล.อประยุทธ์ ไม่ชี้แจงประเด็นนี้ด้วยตัวเอง ก็น่าสงสัยว่าเรื่องนี้อาจมีมูลความจริง