ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในการปฏิบัติภารกิจเยือนเอเชียตั้งแต่วันที่ 5-14 พฤศจิกายน โดยมีการหารือกันด้านการส่งเสริมเครือข่ายพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ เพื่อต่อยอดจากนโยบาย 'อเมริกาต้องยิ่งใหญ่อีกครั้ง'

ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในการปฏิบัติภารกิจเยือนเอเชียตั้งแต่วันที่ 5-14 พฤศจิกายน โดยมีการหารือกันด้านการส่งเสริมเครือข่ายพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ เพื่อต่อยอดจากนโยบาย 'อเมริกาต้องยิ่งใหญ่อีกครั้ง'

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น วันนี้ (5 พฤศจิกายน) โดยเป็นการปฏิบัติภารกิจเยือนประเทศแถบเอเชียครั้งแรกของนายทรัมป์ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเขาจะใช้เวลาทั้งหมด 12 วันในการหารือกับผู้นำญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เพื่อส่งเสริมแนวทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเมือง และประเด็นสำคัญที่สุดคือการจัดการภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธเกาหลีเหนือ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กของอังกฤษรายงานว่านายทรัมป์ได้ยกย่องว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญและมีความหมายอย่างมากต่อสหรัฐฯ และรีฐบาลของเขาจะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า โดยจะเป็นทั้งคู่ค้า มิตรประเทศ และพันธมิตร ในการสนับสนุนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี ซึ่งการอ้างถึงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของนายทรัมป์ เป็นการเปลี่ยนจากคำเรียกเดิม คือ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในสมัยอดีตรัฐบาลอื่นๆ ก่อนหน้านี้

สถานที่แรกซึ่งนายทรัมป์ไปเยือนคือฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในเมืองโยโกตะ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยเขากล่าวปราศรัยต่อทหารอเมริกันในญี่ปุ่นว่า กองทัพสหรัฐฯ จะครอบครองทั้งน่านฟ้า น่านน้ำ อวกาศ และดินแดนทางบก โดยจะไม่เปิดโอกาสให้เผด็จการคนใดได้มีโอกาสท้าทาย และอเมริกาจะต้องชนะ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังสนามกอล์ฟคะสุมิงะซะกิ คันทรีคลับ ในจังหวัดไซตามะ ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว โดยมีนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้การต้อนรับ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายทรัมป์และนายอาเบะได้เซ็นชื่อลงบนหมวกกอล์ฟสีขาวร่วมกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยมีการระบุด้วยว่า นโยบายสหรัฐฯ ปัจจุบัน คือ "อเมริกาต้องกลับมายิ่งใหญ่" แต่ทั้งสองประเทศจะสนับสนุนให้เกิด "เครือข่ายพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่กว่า" หรือ Make Alliance Even Greater ซึ่งเป็นการสานต่อด้านมิตรภาพและความไว้วางใจที่สองรัฐบาลมีต่อกัน

ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์เคยระบุว่าเขาต้องการให้ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายด้านการจัดการกับเกาหลีเหนือ ซึ่งมีท่าทีแข็งกร้าวและยังคงทดสอบโครงการขีปนาวุธและพัฒนาศักยภาพนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลงมติคว่ำบาตรมาแล้วหลายรอบ

ขณะที่วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานว่านายทรัมป์มีแผนจะเจรจากับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อขอความร่วมมือในการจัดการปัญหาเกาหลีเหนือ โดยคาดว่านายทรัมป์จะได้พบกับนายปูตินระหว่างเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดานังของเวียดนามในปีนี้ 

นายทรัมป์ยังได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ติดตามการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ด้วยว่า รัฐบาลของเขาอาจพิจารณาขึ้นบัญชีเกาหลีเหนือในฐานะประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช  มีคำสั่งให้ถอนชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีดังก่ล่าวไปเมื่อปี 2008 (พ.ศ.2551)

เรียบเรียงโดย ตติกานต์ เดชชพงศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog