เทพที่หลายคนกราบไหว้บูชา ในตำนานอาจซ่อนเรื่องราวดาร์กๆ ไว้ไม่ต่างจากมนุษย์ คอลัมน์ "ประวัติศาสตร์ปากว่าง" โดยวิฬาร์ ลิขิต วันนี้ หยิบเกร็ดสุดโหดของชาวสวรรค์ตามที่ปรากฏในคัมภีร์ปุราณะมาเล่าให้ฟัง

ความเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ มีมานานนม เป็นลายลักษณ์อักษรก็คงต้องย้อนไปถึงวรรณคดี "ไตรภูมิพระร่วง" สมัยสุโขทัย ที่เล่าถึงนรกเป็นฉากๆ สวรรค์เป็นชั้นๆ เป็นบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของไทย ที่บรรยายถึงความเชื่อเรื่องนี้ในบ้านเรา

ถ้าให้เลือกได้ คนเราต้องอยากไปสวรรค์อยู่แล้ว เพราะทั้งตำราทางศาสนาและวรรณคดีบรรยายไว้อย่างสวยหรู ทุกสิ่งสรรพล้วนงาม ดีวิเศษสุดจินตนาการ แต่ถ้าเรามากางคัมภีร์ปุราณะ (คัมภีร์ปรัมปราที่แต่งโดยพราหมณ์มีมากมายเป็นแสนๆ โศลก) ของศาสนาพราหมณ์ รวมไปถึงตำนานท้องถิ่นอินเดีย เราจะเห็นถึงความ "ดาร์ค" ของแดนสวรรค์แบบ "ไม่เบา" ขอยกน้ำจิ้มมาให้ดูกันสัก 5-6 เรื่อง เพื่อสะท้อนรสนิยมของเหล่าเทวดาชาวฟ้า

● พระแม่ลักษมีถูกปล้น!

เมื่อกวนเกษียรสมุทร มีสิ่งวิเศษผุดขึ้นมากมาย รวมถึง "พระแม่ลักษมี" เทพีแห่งโชคลาภ ผุดมาพร้อมทรัพย์สินมหาศาล คัมภีร์ปุราณะบางเล่มบอกว่าเหล่าเทพต่างตรงเข้าชิงทรัพย์เหล่านั้นไปเสียหมด จนพระลักษมีหมดเนื้อหมดตัว พระนารายณ์จึงรับพระนางไว้เป็นชายา

พระแม่ลักษมี ตามตำนานว่า สวย รวย และโชคดี
มีอีกนามว่า “ศรี” หมายถึงความงาม
แต่ในคัมภีร์ปุราณะบางฉบับบอกว่าเธอมีน้องสาวคนหนึ่ง
ชื่อ “อลักษมี” ตรงกันข้ามคือ ไม่สวย จน และโชคร้าย
เป็นเทพีแห่งความเฉาโดยแท้จริง
 

● เงื่อนไขสุดฉาวหากอยากนอนกับนางอัปสร

"นางอัปสร" นับพันนับหมื่น ก็ผุดจากเกษียรสมุทร พวกหล่อนรักง่ายหน่ายเร็ว บางครั้งเลยตั้งเงื่อนไขพิสดารกับผู้หวังแอ้ม เช่น อัปสรอุรวศี ตั้งเงื่อนไขกับ “ราชาปุรูรวัส” ว่า ห้ามขัดใจ ต้องร่วมรักวันละสามครั้ง แต่ห้ามเปลือยกายให้หล่อนเห็น ซึ่งกษัตริย์หนุ่มร่วมรักแบบมืดๆ ได้ถึงหนึ่งปี !
 

● เสพสัตว์เป็นเรื่องธรรมดา

"โคกามเธนุ" (โคสุรภี หรือนนทินี) เป็นโคสารพัดนึก น้ำนมดุจน้ำอมฤต เกิดขึ้นจากการกวนเกษียรสมุทรเช่นกัน ควรคู่กับการเป็นเทพพาหนะพระศิวะ แต่ดันเป็นตัวเมีย "พระกัศยปเทพบิดร" เลยอาสาสังวาสกับแม่โค ได้ลูกโคตัวผู้ชื่อ "นนทิ" เป็นเทพพาหนะสมใจ

รูปภาพที่เขียนถึงแม่โคกามเธนุ มักออกแบบให้มีหน้าแบบผู้หญิง
ตัวเป็นแม่โค ดูเหมือนสฟิงซ์ มีภาพพรอพเป็นฤาษีเคียงคู่กัน
เพราะในเวลาต่อมา แม่โคตัวนี้ได้ไปอยู่พึ่งใบบุญของ
“ฤาษีวศิษฐ์” มหาฤาษีในตำนานฮินดู
 

● แม่ใจร้อนทุบลูกจนตัวขาดครึ่ง!

นอกจากแม่โค “พระกัศยปเทพบิดร” ยังมีเมียอีกเพียบ นางหนึ่งชื่อ “วินตา” คลอดลูกเป็นไข่ นางใจร้อนอยากเห็นลูกไวๆ เลยไล่ทุบไข่ให้แตก กระทบลำตัวลูกขาดสะบั้น! ถึงไม่ตายเพราะเป็นเทพแต่ก็สยดสยองเพราะเหลือแค่ตัวครึ่งบน เป็นเทพพิการด้วยน้ำมือแม่นาม “พระอรุณ”

พระอรุณในภาพวาด ก็วาดให้มีตัวครึ่งเดียวตามตำนานนั่นแหละ
แต่ตามความเชื่อถือกันว่าพระอรุณตัวใหญ่โตมาก ขนาดบังแสงอาทิตย์ยามรุ่งได้
เมื่อขับรถเคลื่อนไป แสงแรกของวันจึงค่อยๆ พ้นเหลี่ยม

● สมบัติผลัดกันชมไม่ได้มีแค่นางอัปสร

พระอรุณต่อมาเป็นสารถีของ “พระอาทิตย์” ตำนานพื้นบ้านทมิฬเล่าว่า พระอรุณแปลงร่างเป็น “นางอรุณี” ไปเที่ยวสวนสวรรค์ สวยเตะตาจนได้เสียกับพระอินทร์ พระอาทิตย์จับได้ว่าสารถีแว่บหลบงาน ไต่สวนทราบความเลยให้พระอรุณแปลงกายเป็นอรุณีให้ดู เรื่องวนลูปเพราะพระอาทิตย์ทนความงามไม่ไหว ได้กับอรุณีเช่นกัน

(**หมายเหตุ** ในตำนานแบบทมิฬ พระอินทร์กับพระอาทิตย์มีลูกกับอรุณีกันทั้งคู่ เลยต้องเอาไปฝากแก้เขินกับ “นางอหลยา” ภรรยาฤาษีโคตมะ เด็กสองคนนั้นเป็นชายรู้จักกันในรามเกียรติ์ คือ “พาลี” และ “สุครีพ”)
 

● ผู้ย่อมดีกว่าพ่อ

"พระศุกร์" มีสิ่งสำคัญ 2 สิ่ง คือ ลูกสาวคนสวย "เทวยานี" กับ "มนตร์มฤตสัญชีวินี" ชุบคนตายให้ฟื้นได้ พราหมณ์รูปงามนามว่า "กจะ" ใช้เบ้าหน้าล่อลวงลูกสาวหวังขโมยมนตร์วิเศษ นางหลงหัวปัก ขนาดกจะถูกพระศุกร์กลืนลงท้อง ยังขอให้พ่อทลายพุงตัวเองเพื่อช่วยชีวิตผู้ ผลสรุปพระศุกร์ต้องยอมท้องแตกตาย

(**หมายเหตุ** หลังพระศุกร์ท้องแตกตาย ก็ได้ “กจะ” ร่ายมนตร์มฤตสัญชีวินี ช่วยชุบชีวิตขึ้นมา แต่ลูกสาวพระศุกร์ก็นกจากหนุ่มผู้นี้ เพราะเป้าหมายของฮีคือการมาลักจำมนตร์วิเศษ เซย์กู๊ดบายทันที กรรมสนองนังลูกไม่รักดี)

เขียนถึงตรงนี้ก็บอกตรงๆ เลยว่ารู้สึกปลง เพราะสวรรค์ช่างใกล้เคียงกับโลกเทาๆ ดำๆ ของเราเหลือเกิน มีโลภ มีรัก มีใคร่ มีฉาว

ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว สวรรค์จะมีรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉันก็เห็นแต่มนุษย์นี่แหละที่สร้างสวรรค์ สร้างเหล่าเทพขึ้นมา โดยยึดโยงจากประสบการณ์ของตัวเอง

ถ้าใครบอกเทพเจ้าสร้างมนุษย์ ฉันเถียงใจขาด...