ภรรยาฆ่าโหดสามี ก่อนหั่นศพยัดใส่กระเป๋าเดินทาง แยกศีรษะใส่ถุงโยนทิ้งน้ำ ตำรวจรวบตัวสอบสวน แต่ยังคงให้การวกไปวนมา แถมอ้างตัวเป็นร่างทรงของเทพอานนท์
ภรรยาฆ่าโหดสามี ก่อนหั่นศพยัดใส่กระเป๋าเดินทาง แยกศีรษะใส่ถุงโยนทิ้งน้ำ ตำรวจรวบตัวสอบสวน แต่ยังคงให้การวกไปวนมา แถมอ้างตัวเป็นร่างทรงของเทพอานนท์
วันนี้ ( 7 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ต.พรชัย ศรีมูล พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งจากนายสายัณ นวลพยา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/4 หมู่ที่ 9 ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ รปภ.ธิติวงศ์อพาร์ทเม้น เลขที่ 116/12 ซอยบางขุนนนท์ 12 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย ว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกยัดอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ที่บริเวณชั้น 2 จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ ผกก.สน.บก.น.7 พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล ผกก.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.ชนะชัย ไชยทอง รอง ผกก. สส.บก.น.7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่อยู่หน้าลิฟท์ชั้น 2 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการเปิดออกมาพบถุงพลาสติกขนาดใหญ่แบบมีซิปสีดำลายการ์ตูน เจ้าหน้าที่จึงทำการเปิดออกมาตรวจสอบก็พบร่างมนุษย์ถูกห่อด้วยผ้าห่มสีชมพูลายการ์ตูน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณข้อมือและข้อเท้าถูกมัดด้วยเชือกฟางพลาสติกสีเหลือง โดยศพดังกล่าวไม่มีศรีษะ ข้อมือทั้ง 2 ข้าง และข้อเท้าขวาหายไป ข้อเท้าซ้ายห้อยต่องแต่ง ทั้งหมดถูกหั่นด้วยของมีคม นอกจากนี้ทั่วร่างกายยังพบบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมอีกหลายแผล ส่วนผู้ต้องหานั้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พรสุรีย์ ดีแผ่ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 1 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยนำตัวไปสอบสวนที่ บก.น.7
จากการสอบสวนนายสายัณ กล่าวว่า วันนี้ในช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังทำความสะอาดอยู่ที่บริเวณชั้น 7 น.ส.พรสุรีย์ ซึ่งพักอยู่ที่ห้อง 714 ได้เรียกให้ตนไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่นำมากองไว้หน้าห้อง โดย น.ส.พรสุรีย์ บอกกับตนว่า กำลังจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และบอกให้ตนนำเสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋ากระเป๋าเดินทาง พร้อมถุงใส่เสื้อผ้า ไปแจกจ่ายกับพรรคพวก จากนั้นตนจึงลากกระเป๋าทั้งมาไว้ที่ชั้น 2 ก่อนจะทำการเปิดประเป๋าลากออกดูก็พบชิ้นส่วนมนุษย์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ตรวจสอบภายในห้องดังกล่าวไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ที่เหลือ พบอุปการณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด คราบเลือดติดที่ผนังหัวเตียง นอกจากนี้ที่บานประตูทุกบานที่อยู่ในห้องมีการลงยันต์อักขระ พร้อมกันนี้ยังพบเทียนไขขนาดใหญ่ที่ไว้ใช้ชุดบูชาเทพเจ้า ชุดถือศีลสีขาวกองอยู่กับพื้น 1 ชุด สมุด 1 เล่ม ภายในเขียนยันต์ลวดลายต่างๆ นอกจากนี้ยังพบสุนัขที่เลี้ยงไว้ในห้อง 2 ตัว จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
นายศราวุธ งามแท้ อายุ 48 ปี จยย.รับจ้างหน้าอพาร์ทเม้นดังกล่าว กล่าวว่า วานนี้เวลาปราณ 15.00 น. น.ส.พรสุรีย์ได้ว่าจ้างให้ตนไปส่งที่ร้านคลังยา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก เมื่อถึงร้านดังกล่าว น.ส.พรสุรีย์ ได้ให้เงินกับตน 60 บาท บอกว่าไม่ต้องทอน ซึ่งปกติแล้วค่ารถแค่เพียง 10 บาท เมื่อส่งเสร็จตนก็กลับมายังวิน ต่อมา น.ส.พรสุรีย์ นั่งรถ จยย. รับจ้าง กลับมาพร้อมถุงพลาสติกแบบมีซิป เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาหลายถุง
ด้านนางบุญส่ง นวลพยา อายุ 48 ปี ภรรยาของนายสายัณ พนักงานดูแลอพาร์ทเม้น กล่าว่า ทั้งคู่มาอาศัยที่แห่งนี้เป็นเวลา 9 ปี โดยเช่าห้องเดือนละ 8,500 บาท ซึ่งรวมค่าน้ำค่าไฟแล้วเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท และจ่ายค่าห้องตรงเวลาทุกครั้ง โดยผู้ชายนั้นทำงานเป็นดีไซน์เนอร์ ส่วนผู้หญิงไม่ทำประกอบอาชีพ ปกติจะเห็นผู้ตายแต่งตัวดีมีฐานะ และมักจะฝากให้ จยย.รับจ้าง ซื้อเบียร์ไปดื่มกินครั้งละประมาณ 2 ลัง กระทั่งช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นผู้ตายลงมาด้านล่าง เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แต่ทางผู้ต้องหาก็ยังสั่งซื้อเบียร์อยู่เสมอ และช่วงประมาณปีที่แล้วได้รับร้องเรียนจากเพื่อนข้างห้องว่าทั้งคู่นั้นมีปากเสียงกันหลายครั้ง จึงขึ้นไปตักเตือนอยู่เป็นประจำ และเมือวานนี้ (6 ต.ค.) ทางผู้ต้องหาได้มาแจ้งขอย้ายออกโดยไม่ได้แจ้งสาเหตุ กระทั่งเมื่อช่วงเช้าตนเห็นผู้ต้องหา แต่งหน้าทาปากแดงเข้มจนน่ากลัว ใส่สร้อยมุกเต็มคอ เกล้าผมมวยและติดดอกไม้ช่อใหญ่สีแดง ท่าทางผิดสังเกต แต่ไม่มีใครกล้าทัก เดินถือถุงพลาสติกขนาดใหญ่แบบมีซิปจำสีไม่ได้ มาที่ท่าน้ำและโยนถุงดังกล่าวทิ้ง
นายกิตติพงษ์ สำเภา อายุ 28 ปี พักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 7 กล่าว่า ทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ และมักจะเห็นผู้ตายมานั่งอยู่บริเวณหน้าห้องของตัวเองอยู่เสมอ โดยแต่งกายเนื้อตัวมอมแมม ผู้ต้องหาจะเอาข้าวมาให้กิน แต่บางครั้งเมื่อทะเลาะกันผู้ต้องหายังได้ลากผู้ตายมายังกองขยะที่ชั้น 5 ทิ้งไว้ข้ามคืน เมื่ออารมณ์ดีก็มาลากตัวกลับเข้าห้องดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า จาการสอบปากคำพยานแวดล้อมประกอบด้วย คนตกปลา โดนคนตกปลาให้การว่า เมื่อช่วงเช้าเห็นผู้ต้องหานำถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาโยทิ้งคลองบางกอกน้อยที่ด้านหลังอพาร์ทเม้น คาดว่าจะเป็นอวัยวะส่วนที่เหลือที่ขาดหายไป จากนี้จะไปประสานไปยังเจ้าหน้าที่ประดำน้ำเพื่อมาค้นหาถุงดังกล่าว และจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังให้การวกวน ลักษณะเหมือนคนเสียสติพร่ำเพ้อถึงเทพเจ้าต่างๆ จึงต้องรอให้สงบสติอารมณ์ ก่อนจะทำการสอบปากคำอีกครั้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจสอบปัสสาวะผู้ต้องหาทราบว่าผลปัสสาวะมีสีม่วง ส่วนอาการที่ทางผู้เสียหาพร่ำเพ้อนั้น จะนำตัวส่งไปให้แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา ปิดบังผ่อนเร้นอำพรางศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดประดำน้ำได้ลงค้นหาที่บริเวณท่าน้ำดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พบถุงพลาสติกแบบมีซิปสีขาวลายการ์ตูน จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ เมื่อเปิดดูก็พบศรีษะของผู้ตายห่อด้วยผ้าขนหนูสีเหลือง โดยสภาพใบหน้าถูกฟันจนเละ แต่ยังไม่พบชิ้นส่วนที่เหลือคือ ข้อมือทั้ง 2 ข้าง และข้อเท้าขวา จากเจ้าหน้าที่จะทำการเร่งค้นหาต่อไป.
ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่ บก.สส.น.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.พรสุรีย์ ไปสอบปากคำ แต่ไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากพูดจาไม่รู้เรื่องลักษณะคล้ายคนเมายาเสพติด และอ้างว่าตนเป็นร่างทรงของเทพอานนท์ เจ้าหน้าที่จึงรอให้สงบสติรมย์ ก่อนจะทำการสอบสวนอีกครั้ง จากการสืบสวนยังทราบอีกว่าผู้ตายนั้นมีห้องให้เช่าที่ย่านท่าพระ