ไม่พบผลการค้นหา
เมื่อ 'คาราบาว คัพ' ไม่อยู่ในสายตา หลายทีมส่งสำรองลงลับแข้ง แล้วถ้วยไหน 6 ทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษให้ความสำคัญมากที่สุด ไปชมกันครับพี่น้องง..

เมื่อ 'คาราบาว คัพ' ไม่อยู่ในสายตา หลายทีมส่งสำรองลงลับแข้ง แล้วถ้วยไหน 6 ทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษให้ความสำคัญมากที่สุด ไปชมกันครับพี่น้องง..

แม้จะฟังดูโหดร้าย แต่เป็นเรื่องจริง ศึกฟุตบอลชิงถ้วยคาราบาว คัพ รอบ 3 ปีนี้ ที่เพิ่งเปิดฉากประเดิมสนามสำหรับทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นไปตามคาด บรรดาทีมใหญ่ส่งนักเตะชุดบี - ชุดซี ลงสนามกันคึกคัก ทำเหมือนถ้วย (ของพี่แอ๊ด) ใบนี้ไม่มีค่า

แล้วถ้วยไหนที่พวกเขาอยากได้ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก? พรีเมียร์ลีก? หรือยูโรป้า? ESPN สื่อกีฬาชื่อดังแจกแจงมาให้ดูกันว่า ทีมระดับ "Top 6" ของพรีเมียร์ลีกเขาให้ความสำคัญกับถ้วยไหน เพราะเหตุใด

- เชลซี

1. แชมเปี้ยนส์ลีก คือเป้าหมายอันดับ 1 ของอันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมเชลซี เพราะเคยคว้าถ้วยนี้ได้สมัยเป็นผู้เล่นกับยูเวนตุส และต้องการครอบครองอีกครั้งในฐานะโค้ช ...ที่สำคัญ เชลซีอยากเป็นทีมแรกของอังกฤษที่ครองเจ้ายุโรปได้ นับตั้งแต่ทีมตนเองเคยทำได้มาในครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012

2. พรีเมียร์ลีก เป้าหมายอันดับสอง คือ การป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ เพราะยังไม่มีทีมใดเคยทำได้ นับตั้งแต่แมนฯ ยูไนเต็ด ทำสำเร็จในปี 2009 และที่เหนือกว่านั้น คอนเต้จะภูมิใจมากหากจบอันดับดีกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด และแมนฯ ซิตี้ ในเวอร์ชั่นล่าสุดที่เสริมทัพแบบจัดเต็มกันทั้งคู่

เชลซี กับแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016-17

3. เอฟเอคัพ คือ อันดับสามของลิสต์ถ้วยรางวัลในปีนี้ของคอนเต้ เพราะเชลซีในกำมือเจ้าของทีม โรมัน อับราโมวิช ให้ความสำคัญกับถ้วยนี้มาตลอด คว้าแชมป์นี้มาแล้ว 4 สมัย และฤดูกาลที่แล้วก็ทะลุถึงรอบชิงฯ แต่ไปพ่ายอาร์เซน่อล ทำให้พลาดคว้าดับเบิลแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้วไปอย่างน่าเจ็บใจ

4. ลีกคัพ หรือปีนี้เรียกว่า คาราบาวคัพ ถ้วยนี้อยู่ต่ำสุดในอันดับความสำคัญของเชลซีมาตลอด โดยปีที่แล้วเชลซีตกรอบ 4 เพราะคอนเต้จัดชุดสำรองลงเล่นหลายคนในนัดเยือนเวสต์แฮม ทำให้แพ้ไป 1-2 และปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

1. พรีเมียร์ลีก คือ เป้าหมายเบอร์ 1 ของ "ปีศาจแดง" ซึ่งโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมไม่เคยปิดบัง และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ปีนี้ต้องดึงนักเตะมากประสบการณ์อย่างเนมานย่า มาติช และโรเมลู ลูกากู มาเสริมทัพ

2. แชมเปี้ยนส์ลีก มูรินโญ่มีสถิติที่สวยงามในบอลถ้วยยุโรปใบนี้ และเขาก็ยังอยากรักษาสถิตินี้ไว้ แต่ถ้าดูดีๆก็พอจะรู้ว่า มูรินโญ่รู้ตัวดีว่า การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกมีความเป็นไปได้มากกว่า อย่างน้อยก็ในฤดูกาลนี้

3. เอฟเอคัพ มูรินโญ่คือนักสะสมถ้วยรางวัล และถ้วยเอฟเอก็เฉือนชนะถ้วยลีกคัพเล็กน้อย เพราะซีซั่นที่แล้ว เขาได้ถ้วยลีกคัพมาครองแล้ว ความตั้งใจของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จริงๆแล้วคือการคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน

4. คาราบาวคัพ แม้จะไม่ใช่ถ้วยที่ให้ความสำคัญอันดับต้น แต่มูรินโญ่ก็ไม่มีทางทิ้งขวางไป เขาหวังว่าเหล่าตัวสำรองที่ส่งลงสนามจะพาทีมผ่านรอบแรกๆไปได้ ก่อนที่จะส่งชุดใหญ่ลงเล่น หากมองเห็นโอกาสคว้าแชมป์มาครองอีกสมัย

- ลิเวอร์พูล

1. พรีเมียร์ลีก คือ ถ้วยที่ห่างหายไปจากสโมสรมานานถึง 27 ปี และเหล่าสาวก "เดอะค๊อป" ก็ล้วนโหยหา ถิ่นแอนฟิลด์ไม่ต้องการแชมป์ใดมากไปกว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก และเจอร์เก้น คล๊อปป์ ก็รับรู้เรื่องนี้มาตลอด

2. แชมเปี้ยนส์ลีก ผลงานของลิเวอร์พูล 2 ครั้งล่าสุดที่ลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกไม่น่าประทับใจ ตกรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 2 ครั้ง แต่ "หงส์แดง" ยังคงมองว่า พวกเขาควรค่าแก่การเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ และจะพยายามทำให้ดีที่สุดในการกลับมาแข่งขันบนเวทีที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป

3. เอฟเอคัพ ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยนี้มาได้เพียงครั้งเดียวในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา และเอฟเอคัพก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่สุดที่คล๊อปป์จะคว้ามาได้ เพื่อใช้เสริมบารมีการเป็นกุนซือ "หงส์แดง" แต่ฤดูกาลที่แล้ว เขาถูกวิจารณ์หนักที่ส่งชุดเล็กลงเล่นรอบ 4 และปีนี้ก็น่าจับตาว่า คล๊อปป์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

4. คาราบาวคัพ แม้ 2 ปีหลังสุด ลิเวอร์พูลจะทำได้ดีในถ้วยใบนี้ สามารถเข้าถึงรอบชิงฯ ในปี 2016 และรอบรองฯ ในปี 2017 แต่ปีนี้ต้องเจอศึกหนักตั้งแต่รอบประเดิมสนาม และคล๊อปป์ก็ยังคงส่งชุดผสมลงเล่น จนพ่ายให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบไปเป็นทีมแรกของทีม "Top 6"

ลิเวอร์พูลชูถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งสุดท้ายในปี 2005

- แมนเชสเตอร์ ซิตี้

1. พรีเมียร์ลีก + แชมเปี้ยนส์ลีก คือ ถ้วยที่ทีม "เรือใบสีฟ้า" ต้องการมากที่สุดพอๆกัน โดยแฟนๆ อาจต้องการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพราะมีคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง "ปีศาจแดง" เป็นคู่แข่งสำคัญในปีนี้ แต่เป๊ป กวาดิโอล่าร์ กุนซือแมนฯซิตี้ ก็ไม่ได้มองว่า ถ้วยแชมป์ยุโรปสำคัญน้อยไปกว่ากัน

3. เอฟเอคัพ ซีซั่นที่แล้วถ้วยนี้มีความสำคัญกับซิตี้ หลังจากพลาดสองเป้าหมายหลักไป เป๊ปคงไม่ต้องการจบฤดูกาลมือเปล่า 2 ซีซั่นติดๆ ดังนั้น ฤดูกาลนี้คงไม่มองข้ามถ้วยเอฟเอไปแน่ แต่ก็ยังสำคัญไม่เท่า 2 ใบแรกที่กล่าวมา

4. คาราบาวคัพ ถ้วยนี้ถือเป็นโอกาสที่มีค่าสำหรับชุดสำรอง และดาวรุ่ง ซึ่งต้องการโชว์ศักยภาพตัวเองว่าดีพอที่จะก้าวขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ในอนาคตหรือไม่

- อาร์เซน่อล

1. พรีเมียร์ลีก คือถ้วยเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับทีม "ปืนใหญ่" ในซีซั่นนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้นักเตะมีเวลาพักมากกว่าทีมใหญ่อื่นๆ และสามารถโฟกัสไปที่ถ้วยลีกสูงสุดของประเทศใบเดียวเท่านั้น

2. ยูโรป้าลีก คงไม่ต้องสงสัยว่าอาร์เซน่อลก็ต้องการถ้วยนี้ แต่ไม่ใช่เป้าหมายแรก หากดูจากผู้เล่นที่ส่งลงนัดเปิดสนามกับเอฟซี โคโลญจน์ คาดว่า อาร์แซน เวนเกอร์ น่าจะใช้รอบแบ่งกลุ่มเพื่อทดสอบนักเตะดาวรุ่ง และตัวสำรอง และจะส่งชุดใหญ่ลงก็ต่อเมื่อผ่านเข้ารอบแพ้คัดออก หรือหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วเท่านั้น

3. เอฟเอคัพ เวนเกอร์จริงจังกับถ้วยใบนี้เสมอ เพราะสถิติแชมป์ 7 สมัยของเขาเป็นเครื่องบ่งชี้ แต่หลังจากครองแชมป์นี้มา 3 สมัยในรอบ 4 ปี ทีม "ปืนใหญ่" คงอยากได้ถ้วยอื่นที่ใหญ่มากกว่า

4. คาราบาวคัพ นี่คือถ้วยในประเทศที่เวนเกอร์ยังไม่เคยได้ แต่ก็อย่าหวังว่าเขาจะให้ความสำคัญมากมายกับมัน เวนเกอร์น่าจะส่งบรรดานักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ลงสนาม เพื่อเปิดทางให้ตัวหลักได้พักแข้งในรายการนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด กับแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งสุดท้ายในปี 2013

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

1. พรีเมียร์ลีก คือเป้าหมายอันดับแรกของมอริซิโอ ปอเชตติโน่ เพราะเขาคือผู้จัดการทีมลีก และพรีเมียร์ลีกคือเป้าหมายที่เป็นไปได้มากที่สุดในมุมของเขา ฤดูกาลที่แล้วสเปอร์สถึงขั้นพักผู้เล่นหลักในแชมเปี้ยนส์ลีกในนัดที่ต้องชนะโมนาโก เพื่อเก็บไว้ใช้งานในเกมถัดไปที่เจอกับเชลซีในพรีเมียร์ลีก และปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน

2. แชมเปี้ยนส์ลีก ปอเชตติโน่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว ถ้วยยุโรปใบนี้สำคัญรองลงมา เพราะเป็นถ้วยอันทรงเกียรติสำหรับสโมสรที่มีขนาดระดับสเปอร์ส ซีซั่นนี้หากสเปอร์ส ผ่านรอบแบ่งกลุ่มที่อยู่ร่วมสายกับเรอัล มาดริด และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปได้ มันจะมีความหมายกับทีมในแง่ขวัญกำลังใจมากที่เดียว

3. เอฟเอคัพ เคยเป็นถ้วยของสเปอร์สมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป แม้ปอเชตติโน่รู้ดีว่า สเปอร์สต้องการถ้วยประดับสโมสรโดยเร็ว และเอฟเอคัพก็อาจช่วยลดแรงกดดันให้ผู้จัดการทีมหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับปอเชตติโน่ เพราะเขาให้ความสำคัญกับพรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่า

4. คาราบาวคัพ ปอเชตติโน่จะใช้รายการนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง และตัวสำรองได้โชว์ศักยภาพ และการเข้ารอบต่อไปในรายการนี้มีแค่ 2 ปัจจัย คือขึ้นอยู่กับว่าเจอคู่แข่งทีมใด และชุดสำรองมีความกระหาย และคุณภาพมากพอหรือไม่

เห็นอย่างนี้แล้ว แฟนๆ คาราบาวคัพ คงพอเข้าใจกันแล้วใช้มั้ยครับพี่น้องงงงง

 

รายงานโดย ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog