รัฐสภากัมพูชาลงมติถอดถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ของนายเกิม เสิกขา หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา ขณะที่พรรคประกาศบอยคอตการลงมติในครั้งนี้ และเดินทางไปประท้วงหน้าเรือนจำ

ในวันนี้ (11 กันยายน) รัฐสภากัมพูชาได้ลงมติเพิกถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ของนายเกิม เสิกขา หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) พรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศ ด้วยคะแนนเสียง 67 เสียง จากจำนวนเสียงในสภาทั้งหมด 123 เสียง โดยปราศจากเสียงคัดค้าน เนื่องจากพรรคกู้ชาติกัมพูชาบอยคอตการลงมติครั้งนี้

เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา นายเกิมถูกจับกุมตัวจากบ้านพักในข้อหากบฏและสมคบคิดกับต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกลับมองว่าการจับกุมตัวนายเกิมในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความพยายามของรัฐบาลในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามและผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง

นายเฮง สัมริน ประธานรัฐสภากัมพูชาเปิดเผยว่า การลงมติครั้งนี้จะอนุญาตให้รัฐบาลสามารถดำเนินการจับกุม ควบคุมตัว และตั้งข้อกล่าวหาแก่นายเกิมได้

นายเกิม เสิกขา ขณะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1

อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคกู้ชาติกัมพูชา ซึ่งได้บอยคอตการลงมติในครั้งนี้ ประกาศว่าจะเดินทางไปยังทัณฑสถาน 3 ที่ตั้งอยู่ติดชายแดนเวียดนาม ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัวนายเขมแทน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวเขา ซึ่งในวันนี้ทางการกัมพูชาก็ได้ยกระดับมาตราการรักษาความปลอดภัยโดยรอบทัณฑสถานแห่งนี้เพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติ โจมตีว่าการลงมติของรัฐสภาเพื่อเพิกถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ของนายเกิมในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งพรรคกู้ชาติกัมพูชายอมรับไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนายเกิม ซึ่งไม่ได้กระทำความผิด ส่วนทนายความของนายเกิมก็ได้เปิดเผยว่า หลักฐานวิดีโอที่บันทึกเมื่อปี 2013 ขณะที่นายเกิมกำลังหารือเรื่องยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง และระบุว่าได้รับความช่วยเหลือจากชาวอเมริกันเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการจับกุมและตั้งข้อหากบฏแก่นายเกิมนั้น เป็นเรื่องไร้สาระ พร้อมยืนยันว่า ขณะนั้นนายเกิมเพียงแต่หารือเรื่องยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเท่านั้น

ขณะที่โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชาของนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโจมตีพรรคฝ่ายค้านว่า การบอยคอตการลงมติของรัฐสภา เป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธ��รมนูญ แต่รัฐบาลเชื่อมั่นว่า มีจำนวนที่นั่งในสภาเพียงพอที่จะผ่านมติเพิกถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ของนายเกิม

นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายฮุน เซน ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชามายาวนานกว่า 30 ปี ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เขาวางแผนที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปอีก 1 ทศวรรษ ขณะที่ประเทศตะวันตกและกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนต่างตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งใหญ่ของกัมพูชาที่จะมีขึ้นในปีหน้า อาจเป็นการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา นายฮุน เซนได้สั่งขับสถาบันเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานด้านประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ออกนอกประเทศ พร้อมสั่งปิดสถานีวิทยุอีก 19 แห่ง ขณะที่หนังสือพิมพ์ แคมโบเดีย เดลี สื่ออิสระที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลก็ต้องประกาศปิดตัว หลังรัฐบาลกัมพูชาสั่งให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้จ่ายภาษีจำนวน 6.3 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 200 ล้านบาท

เรียบเรียงโดย: สลิสา ยุกตะนันทน์