ไม่พบผลการค้นหา
การทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้างแรงงานต่างด้าว ที่นายจ้างหลายคนคิดว่ายุ่งยากวุ่นวายเสียเวลา จริงๆ แล้วหากเตรียมเอกสารครบ ใช้เวลาแค่4วันก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ค่าใช้จ่ายแค่ 1,500 บาท ไม่ต้องเสียเงินจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการหลายพันบาท

การทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้างแรงงานต่างด้าว ที่นายจ้างหลายคนคิดว่ายุ่งยากวุ่นวายเสียเวลา จริงๆ แล้วหากเตรียมเอกสารครบ ใช้เวลาแค่4วันก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ค่าใช้จ่ายแค่ 1,500 บาท ไม่ต้องเสียเงินจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการหลายพันบาท

หลังจาก พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฯ ฉบับใหม่ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฯ ฉบับนี้ มีบทลงโทษที่รุนแรง ทั้งจำและปรับสูงถึง 800,000 บาท ทำให้แรงงานต่างด้าว และนายจ้างเกิดความวิตกกังวล ตื่นตัวในการจ้างแรงงานต่างด้าวโดยมีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายทยอยเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก ซึ่ง คสช.ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว และเปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นวันที่ 8 ส.ค.-6 ก.ย.จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความสัมพันธ์การเป็นนายจ้าง-ลูกจ้าง เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วเจ้าหน้าที่จะออกใบรับรองให้ไปพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งแรงงานต่างด้าวที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ ครบแล้วจะสามารถทำงานได้ถึงวันที่ 31 มี.ค.61 เมื่อครบกำหนดจะมีการต่ออายุทุกๆ 2 ปี

เมื่อทราบข่าวการประกาศใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฯ นายจ้างอย่างเรามีแรงงานต่างด้าว (เมียนมา) อยู่ในครอบครองก็ตรวจเช็คข้อมูลกับแรงงานต่างด้าวว่ามีหลักฐานอะไรบ้าง และเข้าเว็บไซต์กรมแรงงานหาข้อมูลว่าต้องทำอย่างไร เพราะแรงงานต่างด้าวมีพาสปอร์ตถูกต้อง มีใบเสร็จ มีใบจ้างงานจากนายจ้างเก่า แต่ในส่วนของนายจ้างใบโควต้าหมดอายุด้วย ช่วงที่เวลารัฐบาลเปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าว ก็หอบหลักฐานของแรงงานต่างด้าวและนายจ้างไปลงทะเบียนกับศูนย์ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็มีสองทางให้เลือกคือ 1.ทำเรื่องจ้างแรงงานต่างด้าวใหม่หมด ไม่ต้องสนใจใบโควต้าที่หมดอายุ ไม่ต้องเปลี่ยนนายจ้าง หรือ 2.ไปทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้าง ที่มาลงทะเบียนไว้ก็ทิ้งไป 

ตัดสินใจลงทะเบียนกับศูนย์ฯ ไว้กันพลาด หากทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้างไม่ได้ค่อยมาทำเรื่องจ้างแรงงานต่างด้าวใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่นัดให้พาแรงงานต่างด้าวมาพิสูจน์ความสัมพันธ์ ในวันที่ 2 ก.ย. เหลือเวลาดำเนินการในการทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้าง ทำใบโควต้าประมาณ 15 วัน เพื่อความรวดเร็วก็เข้าไปดาวน์โหลดเอกสารแบบฟอร์มที่ต้องใช้จากกระทรวงแรงงานมากรอกไว้ก่อน และเตรียมเอกสารให้พร้อม

ขั้นตอนการทำแบบรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว หรือ ใบโควต้า และเปลี่ยนนายจ้าง จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารก่อนจากนั้นจะได้บัตรคิวไปรอดำเนินการอีกที การทำใบโควต้ารวดเร็วมากใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีเสร็จเรียบร้อย แต่เข้าคิวนานมาก 2 ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้างได้ เพราะต้องพาแรงงานต่างด้าวไปตรวจโรคก่อน เนื่องจากแรงงานต่างด้าวที่จ้างมา มีเพียงใบเสร็จ ใบ
จ้างงานจากที่เก่าที่ระบุว่าให้ทำงานได้ 2 ปีถึงปี 2561 เคยตรวจโรคเกิน 6 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องพาไปตรวจโรคก่อน ตามโรงพยาบาลที่ระบุไว้ 8 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจิรญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลบางกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกลาง และวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล

จบการทำใบโควต้า รอแต่ผลตรวจโรคมายื่นเปลี่ยนนายจ้าง ก่อนไปตรวจโรคเพื่อความสะดวกรวดเร็วก็โทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากทางโรงพยาบาลก่อนว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ไปตรวจตึกไหนยังไง ปรากฎว่า โรงพยาบาลแรกที่ใกล้บ้านที่หมายตาไว้ (แถวเขตดุสิต)พยาบาล แจ้งว่า ไม่เปิดรับตรวจคะ ไม่มีนโยบายจากรัฐบาล อ้าวแล้วที่ระบุไว้ในเอกสารว่าโรงพยาบาลนี้สามารถพาแรงงานมาตรวจได้ละ ...ได้รับคำตอบเดิม ยังไม่มีนโยบาลจากรัฐบาลคะ ต่อโรงพยาบาลที่ 2 (แถวอนุสาวรีย์ชัย) รับตรวจเฉพาะวันพฤหัสบดี ต้องมาจองคิวก่อน ตอนนี้คิวถึงวันที่ 28 ก.ย.แล้ว คิวนานเกินไป โทรต่อโรงพยาบาลที่ 3 (แถวตากสิน) พยาบาลบอกว่ารับตรวจเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่มีใบเสร็จ 3,900 บาท คือ แรงงานที่ได้สิทธิ์ทำงาน 2 ปีแต่ถ้าไม่เคยตรวจที่นี่ไม่รับ รับเฉพาะคนเก่าที่เคยตรวจที่นี่ ...มีแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ตรวจที่ไหนก็ได้เหรอ พยาบาลบอกว่า สำนักงานเขตให้ข้อมูลผิด เคยตรวจที่ไหนก็ต้องไปที่นั่น เจอแบบนี้หลายคนแล้ว จบโรงพยาบาลนี้ไปไม่ได้ ต่อโรงพยาบาลที่ 4 (แถวเสือป่า) รับตรวจทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ไม่ต้องจองคิว แค่มาให้ทันก่อน 09.30 น.สรุปตกลงปลงใจที่โรงพยาบาลที่ 4 

วันตรวจสุขภาพพาแรงงานไปเข้าคิวยื่นเอกสาร รอตรวจตามขั้นตอน 7 ขั้นตอน ใช้เวลาประมาณครึ่งวันจากนั้นทางโรงพยาบาลจะนัดวันมารับผลการตรวจสุขภาพ ขั้นตอนตรวจสุขภาพเสียค่าตรวจ 500 บาท เมื่อได้ผลตรวจโรคแล้ว ก็เตรียมเอกสาร กรอกแบบฟอร์มการยื่นขอเปลี่ยนนายจ้างให้ครบ แล้วนำไปยื่นที่สำนักจัดหางานในเขตพื้นที่ที่นายจ้างอาศัยอยู่ ขั้นตอนนี้ไม่ยุ่งยากหากนายจ้างกรอกเอกสาร เตรียมเอกสาร สำเนาเอกสารครบถ้วน และพาแรงงานต่างด้าวมาด้วย (หากไม่พาแรงงานต่างด้าวมาก็ต้องเขียนมอบอำนาจจากแรงงานต่างด้าว) เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จเรียบร้อย นายจ้างจ่ายค่าธรรมเนียมเปลี่ยนนายจ้าง 1,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จให้ใช้แทนชั่วคราวก่อนนัดมารับเอกสารตัวจริงอีกครั้ง

สรุปขั้นตอนการขอโควต้าจ้างแรงงานต่างด้าว และเปลี่ยนนายจ้างใช้เวลา 3 วัน ไม่รวมวันนัดรับเอกสารเปลี่ยนนายจ้างฉบับจริงอีก 1 วัน เสียค่าใช้จ่าย 1,500 บาท คือ ค่าตรวจโรคแรงงานต่างด้าว 500 บาท ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนนายจ้าง 1,000 บาท แต่หากนายจ้างไม่มีเวลาที่จะดำเนินการเอง มีบริษัทเอกชนเปิดบริการเดินเรื่องให้นายจ้าง ซึ่งจากการสอบถามบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องขอโควต้า 2,500 บาท ค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องเปลี่ยนนายจ้าง 2,500 บาท ไม่รวมค่าตรวจโรค และไม่รวม ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนนายจ้าง 1,000 บาท หากจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการจะเสียค่าใช้จ่าย 5,000 บาท และนายจ้างยังต้องพาแรงงานต่างด้าวไปตรวจโรค รวมทั้งเสียค่าธรรมเนียมเปลี่ยนนายจ้างเอง รวม 1,500 บาท นายจ้างสะดวกแบบไหนจะจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ หรือ ดำเนินการเอง ก็รีบดำเนินการก่อนหมดช่วงเวลาที่รัฐบาลผ่อนผันจะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง 


 

เอกสารของนายจ้าง
1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน 
3.แผนที่บ้าน
4.ทะเบียนบ้านตัวจริง (สำหรับขอโควต้า)
5.สำเนาใบโควต้า

เอกสารแรงงาน
1.สำเนาบัตรชมพู (พร้อมตัวจริง) ถ้าไม่มีเป็นหนังสือเดินทางใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit
2.สำเนาหนังสือเดินทางทุกหน้า
3.ภาพถ่าย 2 นิ้ว 4 ใบ (ขอโควต้า 2 ใบ เปลี่ยนนายจ้าง 2 ใบ)
4.ใบตรวจโรค หากเคยตรวจโรคเกิน 6 เดือนต้องตรวจโรคใหม่


ดาวน์โหลดเอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนนายจ้างได้ที่ เว็บไซต์สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว


 

  
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog