ไม่พบผลการค้นหา
'สรยุทธ สุทัศนะจินดา' นอนคุกหลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ ส่งคำร้องศาลฎีกาพิจารณาต่อ คาดใช้เวลา 1 สัปดาห์

'สรยุทธ สุทัศนะจินดา' นอนคุกหลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ ส่งคำร้องศาลฎีกาพิจารณาต่อ คาดใช้เวลา 1 สัปดาห์

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ออกหมายขังจำเลยทั้งหมดในคดียักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท. ทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ราชฑัณควบคุมตัวไปที่เรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งการประกันตัวจากศาลฎีกา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยจะมีการแยกคุมขังที่เรือนจำชายที่พิเศษกรุงเทพ และ ทัณฑสถานหญิงกลาง  

โดยทนายได้มีการยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดและบัญชีเงินฝากคนละ 4 ล้านบาท แต่ศาลเห็นว่าควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกา เป็นผู้พิจารณาต่อไป 

วันนี้ที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 กรณีถูกกล่าวหายักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท. กว่า 138 ล้านบาท

ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา ความผิดฐานสนับสนุนตามมาตรา 6, 8 และ 11 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 20 ปี ทั้งนี้นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา นำสืบเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ

ส่วนการกระทำของ น.ส.พิชชาภา มีความผิดตามมาตรา 6, 8 และ 11 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 30 ปี ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 20 ปี บริษัท ไร่ส้มฯ สั่งปรับเงิน 1.2 แสนบาท ลดเหลือ 8 หมื่นบาท

โดยศาลให้เหตุผลว่า นางพิชชาภา จะอ้างว่ามีช่องว่างการตรวจสอบไม่ได้เพราะเป็นผู้ดำเนินการจัดทำคิวและทราบความเป็นไปของรายละเอียดโฆษณาตั้งแต่เริ่ม รวมถึงอ้างว่าตกใจกลัวจึงใช้น้ำยาลบคำผิดในใบคิวของจำเลยที่ 2 นั้นเป็นคำอ้างที่ไม่มีน้ำหนัก อุทธรณ์ของนางพิชชาภาจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนนายสรยุทธเป็นกรรมการผู้จัดการของนางพิชชาภาจึงไม่อาจปฏิเสธคงามรับผิดได้ ส่วน คุณงามความดีของนายสรยุทธที่กล่าวอ้างนั้นเป็นคนละส่วนกับพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด ซึ่งศาลต้องพิเคราะห์ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏจากการไต่สวน 

สำหรับการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้ ได้มีนายเอกราช เก่งทุกทาง ผู้ประกาศข่าวกีฬา พร้อมทีมผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เดินทางไปที่ศาลเพื่อให้กำลังใจนายสรยุทธก่อนเดินทางกลับในช่วงบ่ายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog