อินทผลัม  หรือ  อินทผาลัมที่เราคุ้นเคยจะเป็นผลแห้ง รสชาติหวานเนื้อนุ่ม  แต่ในไทยสามารถเพาะปลูก อินทผาลัมแบบทานผลสดได้   ราคาจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละ 600 บาท
 

ผลอินทผลัมสีเหลืองเต็มช่อพร้อมเก็บเกี่ยว คืออินผลัมพันธุ์ "บาฮี" ที่ปลูกเพื่อกินผลสด  มีรสชาติหวานกรอบ  

"อภิชน วรรณี"  เจ้าของสวนภูผมลัม  สวนอินทผาลัมแห่งแรกของไทย  ศึกษาการปลูกด้วยตนเองมากว่า 10 ปี  หลังเดินทางไปอียิปต์และได้ชิมผลอิทผาลัมสด จนเกิดแรงบันดาลใจ เริ่มค้นคว้าเพิ่มเติม จนพบว่า  อินทผาลัมไม่ใช่พืชต้องห้ามในการย้ายถิ่นฐานการปลูก   และได้ข้อสรุปว่า  "การปลูกด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ" ให้ผลอินทผาลัมที่ตรงกับพันธุ์แท้มากที่สุด

อินทผาลัมใช้พื้นที่ปลูกที่ดีที่สุดที่  8*8  เมตร หรือพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 25 ต้น โดยนำเนื้อเยื่อเพศผู้ 1 ต้น ต่อเนื้อเยื่อเพศเมีย 5 ต้น  ลงดิน  และผสมเกษร  ดูแลด้วยการใส่ปุ๋ย 3 เดือนต่อครั้ง  รดน้ำตามความเหมาะสมของฤดูกาล โดยพันธุ์ผลสดเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น   ใช้เวลา 3 ปี  จึงจะให้ผลผลิตชุดแรก  และ 1 ปี ให้ผลผลิตครั้งเดียว 

ด้วยวิธีการปลูกที่มีความละเอียดและใหเผลผลิตน้อยในแต่ละครั้ง  จึงทำให้อินทผาลัมมีราคาขายสูง  พันธุ์บาฮี  กิโลกรัมละ 600-800 บาท  หากเก็บเกี่ยวทั้งหมด 1 ต้น  ให้ผลผลิตอย่างน้อย 30 กิโลกรัม  รายได้เฉลี่ยต่อต้นอยู่ที่ 18,000 บาท  

และขณะนี้สวยภูผาลัมอยู่ระหว่างการเริ่มต้นปลูกพันธุ์ "อัมเดด-ดาฮาล"  ให้ผลสีส้มเข้ม  ราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 800-1,000 บาท ส่วนอินผาลัมผลแห้งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่สามารถปลูกในไทยได้  เพราะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง   

ปัจจุบันเนื้อเยื่ออินทผาลัมที่นำมาปลูกในไทยนำเข้า 100% จากตะวันออกกลางและอังกฤษ  ยังไม่มีสถาบันการศึกษาใดในไทยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเองได้ ปัจจุบันราคาเนื้อเยื่อเพศผู้ 1,500 - 1,600 บาท  เนื้อเยื่อเพศเมียต้นละ 1,200-1,300 บาท ราคาขึ้นลงตามอัตราแลกเปลี่ยน 

สวนผูภาลัมอยู่ระหว่างการศึกษาอินทผาลัมทานผลสดอีกกว่า  30 สายพันธุ์   โดยอยู่ระหว่างการรอให้ต้นเจริญเติบโต  และยังมีสมาชิกในเครือข่ายเพาะปลูกกว่า 30 รายทั่วประเทศเช่น กาญจนบุรีและชัยภูมิ  ปัจจุบัน  ตลาดยังมีความต้องการอินทผาลัมผลสดอีกจำนวนมาก   ไม่เพียงพอจำหน่ายในประเทศไทย  

อินทผาลัมเป็นผลไม้ที่ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ปี 2553  มีผู้นับถือศาสนาอิสลามกว่า 1,600 ล้านคน แต่ละปีชาวมุสลิจะรับประทานอินทผาลัมมากเป็นพิเศษ ในการถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน  เพราะเป็นผลไม้ที่มีความหวานสูง   เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารมาทั้งวัน  เมื่อทานอินทผาลัมแล้ว  ร่างกายจะดึงเอาน้ำตาลจากผลไม้ชนิดนี้ไปใช้ได้ทันที   นอกจากนี้ชาวมุสลิม  ยังนิยมมอบอินทผาลัมให้แก่กันเหมือนชาวจีน ที่นิยมมอบส้มให้เป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ