ชาวริมคลองลาดพร้าว รับมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ เพิ่มเติมอีก 7 ชุมชน โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ค่าเช่าที่เก็บถือว่าเป็นค่าเช่าที่ดินใจกลางเมือง ที่ถูกที่สุดในโลก ส่วนการเดินหน้าแก้ปัญหาชุมชนรุกล้ำคลองสาธารณะ คาดแล้วเสร็จภายในปี 2561
กรมธนารักษ์จัดพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุประจำปี 2560 ให้ผู้อยู่อาศัยริมคลองลาดพร้าว 7 ชุมชน ตามโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว รองรับโยบายรุกล้ำคูคลอง ประกอบด้วย ชุมชนประชานุกูลกลุ่ม 1 ชุมชนสนามมวย ทอ.พัฒนา ชุมชนร่วมมิตรแรงศรัทธากลุ่ม 1 ชุมชนร้อยกรอง ชุมชนวัดบางบัว ชุมชนหลัง วค จันทรเกษมกลุ่ม 1 ชุมชนหลัง วค จันทรเกษมกลุ่ม 2 และชุมชนลาดพร้าว 45 รวม 906 ครัวเรือน
ก่อนหน้านี้ ชุมชนที่อยู่ริมคลองลาดพร้าวได้รับการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง อันเนื่องมาจากการบริหารจัดการสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ แบ่งเป็นชุมชนที่จัดให้เช่าก่อนปี 2559 จำนวน 6 ชุมชน 1,060 ครัวเรือน และชุมชนที่จัดให้เช่าในปี 2559 จำนวน 10 ชุมชน 996 ครัวเรือน รวมก่อนปี 2559 ถึงปัจจุบัน 26 ชุมชน คงเหลืออีก 14 ชุมชน 3,906 ครัวเรือน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561 จนครบ 50 ชุมชนตลอดแนวคลองลาดพร้าว
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย จึงจัดให้มีการเช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อพัฒนาที่อาศัยในระยะยาวไม่เกิน 30 ปี และผ่อนคลายกฎระเบียบ รวมทั้งข้อบังคับหลักเกณฑ์การเช่า ได้แก่ ค่าเช่าและค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการพัฒนาที่อาศัยของชุมชนที่มีรายได้น้อยให้เกิดความมั่นคงในระยะยาว
"อัตราค่าเช่าไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับทำเล เพราะว่าถ้าท่านเห็นคลองลาดพร้าวบางทำเล ติดถนนรัชดาฯ ติดแยกลาดพร้าวเลย เพราะฉะนั้นก็มีอัตราสูงหน่อย แต่ไม่ต้องเทียบกับเอกชนทั่วไปเลย เพราะเราคิด 1.50 บาท/ตารางวา/เดือน ผมว่าเป็นอัตราค่าเช่าที่หาไม่ได้แล้วในประเทศไทย ในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะคลองลาดพร้าวมันผ่าเมือง มันเจริญหมดแล้ว" อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว
ขณะที่นายจำรัส กลิ่นอุบล ประธานชุมชนลาดพร้าว 45 บอกว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ส่งผลให้ชาวชุมชนจะได้อยู่อาศัยในบ้านเรือนอย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังชื่นชมกระบวนการดำเนินโครงการ ที่เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมแสดงความต้องการในทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เสนอให้ภาครัฐจัดทำกระบวนการที่ทำให้ชุมชนสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต