ไม่พบผลการค้นหา
HMD Global เปิดตัว Nokia 8 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยแฟลกชิปรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมฟีเจอร์สุดทันสมัย เอาใจกลุ่มผู้ใช้งานยุคใหม่ ทั้งกล้อง ,เสียง , ภาพ ,วิดีโอ , สี , แบตเตอรี่ และอื่นๆใหม่ๆอีกมากมาย

HMD Global เปิดตัว Nokia 8 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยแฟลกชิปรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมฟีเจอร์สุดทันสมัย เอาใจกลุ่มผู้ใช้งานยุคใหม่ ทั้งกล้อง ,เสียง , ภาพ ,วิดีโอ , สี , แบตเตอรี่ และอื่นๆใหม่ๆอีกมากมาย

HMD Global เปิดตัว Nokia 8 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยแฟลกชิปรุ่นล่าสุด จาก Nokia นำเสนอฟีเจอร์เด่นสามอย่าง กล้องคู่ 13 ล้านพิกเซล จาก ZEISS, “Bothie” ยิ่งกว่าเซลฟี่ด้วยการถ่ายรูปคู่จากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันทั้งสองด้าน และระบบไมโครโฟน 360 องศา Nokia OZO ยกเทคโนโลยีการอัดเสียงแบบการถ่ายทำภาพยนต์มาอยู่บนสมาร์ตโฟน เน้นกลุ่มผู้ใช้งานยุคใหม่ Millennials Content Creator ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ แชร์และถ่ายทอดออกมาได้น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นตามคอนเซ็ป Ultimate device to tell your story.

 

Nokia 8 ยังชูจุดเด่นหลักของการดีไซน์ไปที่วัสดุตัวเครื่องที่เป็นอลูมิเนียมเกรดสูง ในรูปแบบของยูนิบอดี โค้งมนรับกับอุ้งมือ จุดที่หนาที่สุดของตัวเครื่องมีความหนาเพียง 7.3 มิลลิเมตร พื้นผิวมันวาว High-Gloss เรียบสะท้อนแสงแบบกระจก ด้วยการขัดและชุบกว่า 40 ขึ้นตอน ใช้เวลาในการผลิตกว่า 20 ชั่วโมงต่อชิ้น 

กล้อง 13 ล้านพิกเซลรอบตัว และกล้องคู่ด้านหลังจากการร่วมมือครั้งล่าสุดกับบริษัทที่เหล่าโนเกียแฟนบอยรู้จักกันดีอย่าง ZEISS สามารถบันทึกภาพวิดีโอได้ความละเอียดระดับ 4K พร้อมไปกับระบบบันทึกเสียง Nokia OZO เทคโนโลยีอัดเสียงแบบเดียวกับการถ่ายทำภาพยนต์ ที่จะรวบรวมเสียงจากไมโครโฟนรอบตัวเครื่อง 3 จุดมาประมวลผลและบันทึกเสียงออกมาแบบ 360 องศารอบตัว 

และ Bothie ฟีเจอร์การถ่ายภาพและวิดีโอที่เป็นมากกว่าเซลฟี่ โดยการนำเอาภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังมารวมกันอยู่ในภาพเดียว ทำให้ได้เห็นสีหน้า แววตาและภาพของทั้งสองฝั่งได้พร้อมกัน 

ระบบปฎิบัติการ Pure Android มาจากในกล่อง รวด เร็ว ปลอดภัยและอัพเดทได้รวดเร็วทันใจ พร้อมอัพเกรดเป็น Android O 8.0 ได้ทันที่ได้รับการปล่อยจาก Google 

สเปคก็ไม่เป็นรองใครด้วย โปรเซสเซอร์จาก Qualcomm Snapdragon 835 ทั้งแรงทั้งประหยัดพลังงานโดยสามารถดูวิดีโอ 4K ได้นาวนานถึง 11 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว พร้อมระบบชาร์จเร็ว Qualcomm Quickcharge 3.0 

มี 4 สีให้เลือก Polish Blue น้ำเงินผิวเงา / Tempered Blue น้ำเงินผิวด้าน / Polish Copper สีส้มทองแดงผิวเงา และ Steel สีเงินผิวด้าน พร้อมจำหน่ายต้นเดือนกันยายนนี้ ราคา 599 ยูโร หรือประมาณ 24,000 บาท

หลังจากที่เราได้ทดลองเล่นกันเป็นเวลาสั้นๆ ในภาพรวมนั้น Nokia 8 มีดีไซน์คล้ายกับเจ้า Nokia 5 ที่มีเพิ่มเติมขึ้นมาคือขนาดของหน้าจอที่เพิ่มขึ้นมาจาก 5.2" เป็น 5.3" แต่ความละเอียดคนละโลก แสดงผลที่ระดับ 2K หรือ 2560x1440 พิกเซล แบบ IPS LCD ที่ถูกครอบด้วยกระจก Corning Gorillar Glass 5 แสดงผลละเอียดสวยโดดเด่นที่สีดำ ที่ดำสนิทตามสไตล์หน้าจอของ Nokia กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ดีไซน์คล้ายกับ Nokia 5 แต่คราวนี้มาเป็นคู่ พร้อมโลโก้บอกยี่ห้อที่สาวกโนเกียต่างเห็นแล้วก็ขนลุกขนพอง "ZEISS" ตัวเครื่องที่เราได้ทดลองเล่นกันเป็นสี Tempered Blue น้ำเงินแบบไม่เงา สีเข้มขรึม ผิวสัมผัสเป็นโลหะด้านๆ ตัวเครื่องเพรียวบาง แต่แน่นหนามั่นคง พรีเมี่ยม และจับถือถนัดมือตามสไตล์ Nokia ยุคใหม่

ทิ้ง MicroUSB ไปแล้วเรียบร้อย บ่งบอกความเป็นสมาร์ตโฟนระดับบนเต็มตัว กับช่องชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูงแบบ USB-C แต่ไม่ต้องตกใจว่าจะต้องทิ้งหูฟังอันโปรด เพราะ 3.5mm ยังคงอยู่ ไม่ถูกตัดทิ้งแต่อย่างใด 

กล้อง 13MP f/2.0 จาก ZEISS รอบตัว ไม่ว่าจะกล้องหน้ากล้องหลัง ZEISS เท่าเทียบกันทั้งสอง ระบบกล้องคู่ด้านหลังที่เป็นกล้องสี พร้อมระบบกันสั่น OIS กับ กล้องขาวดำ ที่ทำให้สามารถเก็บภาพได้ดีทั้งในเรื่องเฉดสี และแสงเงาจากกล้องขาว-ดำ แถมยังปรับทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย แฟลชแบบสองสี Dual Tone สามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K 

ในโหมด Bothie นั้นสามารถใช้งานด้วยการกดไปที่ปุ่มสลับกล้อง โดยในโหมดนี้มันจะแบ่งเป็นสองหน้าจอ แสดงภาพทั้งจากกล้องหน้าและหลัง รวมไว้ในภาพเดียว ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพกล้อง เพราะเป็นกล้อง 13MP จาก ZEISS เหมือนกัน


รายละเอียดทางเทคนิคของ Nokia 8

Networks:
GSM: 850/900/1800/1900
WCDMA: 1, 2, 5, 8
TDS-CDMA: 34, 39
LTE:1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
Network speed: LTE Cat. 9, 3CA, 450Mbps DL/50Mbps UL
Available in single SIM and dual SIM variants

OS: Android Nougat 7.1.1
Chipset: Qualcomm® Snapdragon™ 835 Mobile Platform
MSM8998 (4* 2.45GHz Qualcmm® Kryo™ + 4* 1.8GHz Kryo)
RAM: 4GB LPPDDR4X in the following colours: polished blue, polished copper, steel, tempered blue
Storage: 64GB internal memory with external MicroSD card slot (support up to 256 GB)
Form factor: Splashproof IP54 touch monoblock with capacitive system keys
Display: 5.3” IPS LCD QHD 2560 x 1440, 700nts screen brightness, Corning® Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass

Camera with ZEISS optics:
Primary camera: 13MP (Colour + OIS) + 13MP (Mono), 1.12um, f/2.0, 76.9˚, PDAF, IR range finder, dual tone flash
Front facing camera: 13MP PDAF, 1.12um, f/2.0, 78.4˚, display flash
Connectivity & Sensors: Type C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps), 3.5mm headphone jack, Ambient light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, E-compass, Gyroscope, Fingerprint Sensor, Hall sensor, Barometer, 802.11 a/b/g/n/ac (MIMO), BT 5.0, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, NFC, ANT+

Battery: Integrated 3090 mAh battery[iv] with Qualcomm® Quick Charge™ 3.0 (18W, 5V/2.5A, 9V/2A, 12V/1.5A)
Audio: MP3,M4A, AAC,OGG,WAV,AMR,AWB(AMR-WB),FLAC,MIDI(MID,MIDI,XMF, MXMF,IMY,RTTTL,RTX,OTA)
Video: MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
Dimensions: 151.5 x 73.7 x 7.9mm (camera bump 0.4mm)
Weight: 160g

 


ในภาพรวมนั้นเราประทับใจทั้งเรื่องคุณภาพวัสดุ การดีไซน์ คุณภาพของกล้องที่เก็บแสงสีได้สวยตรง ฟังก์ชั่นต่างๆใช้งานไม่ยุ่งยาก หน้าจอละเอียดสวยงาม ระบบปฎิบัติการแอนดรอยอัพเดทล่าสุด แบบ Pure-Android สะอาดตาใช้งานง่าย การประมวลผลที่ทันมือทันใจ อ็อปชั่นพื้นฐานมาครบ เหลือแค่ราคาที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้นที่จะบอกเราได้ว่า จะน่าลงทุนซื้อใช้งานสักแค่ไหน

 

เขียนโดย พันธิตร หมอกพริ้ง

เรียบเรียงโดย จิตต์สุภา ฉิน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog