บริษัทหลายแห่งในญี่ปุ่น ออกสวัสดิการเอื้อต่อการมีสัตว์เลี้ยงของพนักงานมากขึ้น เพื่อผูกใจพนักงาน ไม่ให้ลาออกหรือเปลี่ยนบริษัทบ่อย และตอบรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยม ขณะที่ญี่ปุ่นประสบภาวะสังคมสูงวัย

ถึงแม้ว่านโยบายเอาใจพนักงานที่มีสัตว์เลี้ยง เช่น การอนุญาตให้พนักงานนำสัตว์เลี้ยงไปทำงานด้วยได้ เริ่มใช้บ้างแล้วในบริษัทบางแห่งในตะวันตก และยังมีการรายงานว่าบริษัทในไทยบางแห่งก็ใช้นโยบายนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นโยบายเอาใจพนักงานเจ้าของสัตว์ของบริษัทในญี่ปุ่นหลายแห่ง ครอบคลุมไปถึงความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยง ในฐานะที่มันเป็น 1 ในสมาชิกของครอบครัว

บริษัทยูเรกา บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในกรุงโตเกียว ให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงแก่พนักงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้ให้คำปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บริษัทว่าจ้าง และจะให้คำปรึกษาผ่าน"ไลน์" แอพพลิเคชันสำหรับส่งข้อความ โดยกำหนดว่าพนักงานสามารถได้รับคำปรึกษาได้ 3 ครั้งต่อเดือน นอกจากนี้ บริษัทยูเรกา ยังอนุญาตให้พนักงานสามารถลาหยุดโดยไม่หักเงินเดือนได้ครึ่งวัน 3 ครั้งต่อปี กรณีนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพ โดยหลังจากนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพแล้ว พนักงานสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาทำงานด้วยได้

ด้านรองประธานบริษัทยูเรการะบุว่า นโยบายดังกล่าวเริ่มใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มเปลี่ยนบริษัทภายใน 2-3 ปี ทางบริษัทจึงต้องหานโยบายเพื่อผูกใจพนักงาน เช่น สนับสนุนให้พนักงานลาคลอดและสามารถกลับมาทำงานได้ รวมไปถึงนโยบายเอื้อต่อสัตว์เลี้ยง เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายใจ และสร้างภาพลักษณ์บริษัทน่าอยู่ 

อีกหนึ่งบริษัทที่ใช้นโยบายเอื้อสัตว์เลี้ยง คือ "ยูนิชาร์ม" ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้อนุญาตให้พนักงานลาหยุดได้ 1 วัน กรณีสัตว์เลี้ยงตาย ซึ่งเทียบเท่ากับสิทธิประโยชน์ท���่บริษัทให้กับพนักงานกรณีญาติเสียชีวิต โดยใน"ยูนิชาร์ม"มีพนักงานเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงคิดเป็นร้อยละ 40 ของพนักงานทั้งหมด ซึ่งนโยบายดังกล่าวถูกนำมาใช้ หลังจากบริษัทพบว่ามีพนักงานจำนวนหนึ่งลาหยุดเพราะสัตว์เลี้ยงของพวกเขาตาย

"เราอยากให้พนักงานที่รักสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว รับรู้ว่าเราเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา" ฝ่ายบุคคลฝ่ายยูนิชาร์มกล่าว

ด้านนายอิสุมิ ทาเคอิ นักวิจัยอาวุโสจากบริษัทมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ รีเสิร์ชแอนด์คอนซัลทิง ระบุว่า ในญี่ปุ่น มีข้อเสนอว่าบริษัทควรให้สวัสดิการแก่พนักงานที่มีสัตว์เลี้ยงเทียบเท่ากับพนักงานที่มีลูก ซึ่งขณะนี้ บริษัทบางแห่งก็ยอมทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกับนโยบายเอื้อต่อการมีสัตว์เลี้ยงของบริษัทในตะวันตก

หนึ่งในนั้นคือบริษัท "เฟอร์เรย์" ผู้ออกแบบเว็บไซต์ในกรุงโตเกียว ประกาศสนับสนุนค่าอาหารแมวของพนักงาน ผ่านโฆษณาประกาศหาพนักงานในปี 2011 ซึ่งทำให้มีผู้สมัครงานเพิ่มขึ้น 

ข้อมูลจากสมาคมอาหารสัตว์ในญี่ปุ่นระบุว่า ปี 2016 ชาวญี่ปุ่นเลี้ยงสุนัขและแมวทั้งหมด 19 ล้าน 7 แสนตัว คิดเป็นจำนวนมากกว่าเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายอายุต่ำกว่า 14 ปีทั้งประเทศ ที่มีจำนวน 15 ล้าน 7 แสนคน โดยขณะนี้ ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยขั้นวิกฤต และในญี่ปุ่นมีคนโสดจำนวนมาก ทำให้การเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนแก้เหงาได้รับความนิยม