ไม่พบผลการค้นหา
เรื่องร้อนปมแรงเขย่าความน่าเชื่อถือรัฐบาลกับข้อกล่าวหาเปิดประมูลข้าวเกรดอาหารคน ในราคาเกรดอาหารสัตว์ส่อเอื้อประโยชน์เอกชนหรือไม่?

เรื่องร้อนปมแรงเขย่าความน่าเชื่อถือรัฐบาลกับข้อกล่าวหาเปิดประมูลข้าวเกรดอาหารคน ในราคาเกรดอาหารสัตว์ส่อเอื้อประโยชน์เอกชนหรือไม่?

กลายเป็นแผลใหม่ที่รัฐบาลคสช.ต้องตอบสังคมกรณีที่ น.ส.อิศราภรณ์ คงฉวี ผู้แทนเจ้าของคลังวรโชติ (หลัง 2) ชี้แจงกรณีโกดังข้าว 8 แห่ง เรียกร้องรัฐบาลระงับการระบายข้าวในสต๊อก เพราะข้าวยังมีคุณภาพดีแต่รัฐกลับเปิดขายในราคาอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นช่องที่ทำให้รัฐเสี่ยงขาดทุนได้

ก่อนหน้านี้นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เคยออกมาให้ข้อเสนอแนะว่าภาครัฐต้องประเมินถึงผลกระทบก่อน และทางออกที่ดีคือการเจรจากับผู้ประมูลข้าว และตรวจสอบคุณภาพข้าวใหม่ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับคุณภาพข้าวที่ตรงกัน เพียงแต่ว่ารัฐจะยอมรับฟังหรือไม่ เพราะล่าสุดวันนี้ (1ส.ค.)ตอนแรก พล.ต.ท.ไกรบุย ทรวดทรง ประธานกรรมการ อคส.จะเป็นประธานแถลงเรื่อง การระบายข้าวสารในสต็อคของรัฐนั้น  แต่เนื่องจากติดภารกิจเร่งด่วน จึงขอยกเลิกการแถลงข่าวในวันนี้  พร้อมขอเลื่อนออกไปก่อน ดังนั้นสังคมยังคงต้องอยู่กับคำถามถึงความโปร่งใสต่อไป

มาตรฐาน 20-80 อาจทำให้ข้าวดีถูกขายราคาถูกแล้วเอื้อใคร?

ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีได้พูดคุยกับ ดร.เดชรัต สุขกำเนิด คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเกษตรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมองว่ามีปัญหาอยู่ 2 ส่วนคือ มีการตรวจคุณภาพข้าวแต่ไม่ได้แจ้งผลกับเจ้าของคลังตั้งแต่แรกว่าผลเป็นอย่างไร อีกปัญหาคือการขายที่มีการจัดมาตรฐานข้าวเป็นเกรดต่างๆ เกรดเอข้าวคุณภาพดี เกรดบีข้าวที่ต้องปรับปรุงคุณภาพก่อนนำมาบริโภค และเกรดซีข้าวที่ไม่ได้คุณภาพเหมาะแก่การทำอาหารสัตว์

ความล่าช้าในการแจ้งเกณฑ์การประเมินคุณภาพข้าวของรัฐบาลเองก็มีปัญหาคือไม่ให้คำตอบหน้าโกดังเหมือนในอดีตที่เคยทำ ดร.เดชรัตชี้ว่ากระบวนการตรวจสอบคุณภาพมีปัญหาคือตรวจสอบไปเมื่อปี 2557 แต่เพิ่งให้คำตอบเจ้าของโกดังได้ในมีนาคม 2560 เพราะผลตรวจสอบค่อนข้างจะนานและควรจะมีการตรวจสอบอีกครั้งก่อนขาย


ดร.เดชรัต กล่าวต่อว่าเมื่อมีการแบ่งเกรดเรียบร้อยแทนที่จะแบ่งแยกขาย รัฐบาลกลับออกเกณฑ์ว่าหากข้าวในโกดังใดมีเกรดซีเกินกว่าร้อยละ 20 ก็ให้ขายยกโกดังในราคาเกรดซี หรือที่เราเรียกว่ามาตรฐาน 20-80 ซึ่งมันเป็นการเหมารวมข้าวที่คุณภาพดีกว่าไปขายในราคาต่ำสุดซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวรัฐบาลเพิ่งออกมาเมื่อต้นปี 2560 อย่างกรณีโกดังข้าวอ่างทองที่มีปัญหาคือมีข้าวเกรดซีเพียงร้อยละ 24 แต่ส่วนใหญ่เป็นข้าวเกรดบี แทนที่จะได้ 12-13บาทต่อกิโลกรัม กลับไปได้รับการซื้อไปแค่ 5 บาทต่อกิโลกรัม ที่กำหนดเช่นนี้เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะขายข้าวในตลาดอาหารสัตว์เพื่อไม่ต้องไปขายแข่งกับข้าวของชาวนาที่จะออกมาในฤดูกาลที่จะมาถึง มิฉะนั้น อาจทำให้กระทบกับราคาข้าวในฤดูกาลหน้าได้

ปัญหาลูกโซ่ของกรณีดังกล่าวคือการทำให้ข้าวเกรดบีไปสู่ตลาดอาหารสัตว์แทน ซึ่งทำให้เสียมูลค่าและคุณค่า อีกทั้งรัฐบาลเองก็อาจจะฟ้องร้องตัวแทนที่มีหน้าที่รักษาคุณภาพข้าวว่าทำให้ข้าวด้อยคุณค่าลงทั้งที่จริงรัฐบาลเองเป็นคนกำหนดมาตรฐานนี้ขึ้นมา ดร.เดชรัตตั้งคำถามว่าถ้ารัฐบาลไม่ได้ควบคุมให้ใกล้ชิด และมีการนำข้าวที่ขายเป็นอาหารสัตว์กลับเข้าสู่ตลาดอาหารคน ก็เท่ากับว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายขึ้นได้

 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog