ไม่พบผลการค้นหา
ฮิวแมนไรท์วอทช์ประณามภาพยนตร์เรื่องใหม่ของแอนเจลินา โจลี เรื่อง First They Killed My Father กรณีจ้างทหารกัมพูชาร่วมแสดงเป็นตัวประกอบ โดยระบุว่ากองทัพกัมพูชาเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียเอง และจะขัดแย้งกับบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนของโจลี

ฮิวแมนไรท์วอทช์ประณามภาพยนตร์เรื่องใหม่ของแอนเจลินา โจลี เรื่อง First They Killed My Father กรณีจ้างทหารกัมพูชาร่วมแสดงเป็นตัวประกอบ โดยระบุว่ากองทัพกัมพูชาเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียเอง และจะขัดแย้งกับบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนของโจลี

First They Killed My Father เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของแองเจลินา โจลี นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกันซึ่งผันตัวมาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์จำนวนมาก ว่านี่คือผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่มีสิทธิ์ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ระดับโลกบนเวทีออสการ์ซึ่งจะจัดขึ้นในปีหน้า แต่ขณะเดียวกันภาพยนตร์ดังกล่าวก็ถูกโจมตีอย่างหนักจากนักสิทธิมนุษยชนเช่นกัน

นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 'ฮิวแมนไรท์วอทช์' ประจำเอเชีย กล่าววิจารณ์การคัดเลือกนักแสดงประกอบภาพยนตร์เรื่องใหม่ของโจลี ซึ่งอ้างอิงประสบการณ์จริงของชาวกัมพูชาที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคเขมรแดง โดยทีมงานของโจลีได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกัมพูชาให้เข้าไปถ่ายทำในจังหวัดพระตะบอง และมีการว่าจ้างนักแสดงประกอบชาวกัมพูชาเข้าร่วมแสดงในหนังอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงทหารในกองทัพบกกัมพูชายุคปัจจุบันกว่า 500 นาย ซึ่งได้รับบทเป็นทหารเขมรแดงในอดีต

นายอดัมส์ย้ำว่าการจ้างทหารกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และจะทำให้ภาพลักษณ์ของโจลีในฐานะนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนต้องด่างพร้อย เพราะกองทัพบกกัมพูชามีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเขาได้ยกตัวอย่างกรณีกองทัพใช้กำลังปราบปรามผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงการใช้กระสุนจริงยิงสลายการชุมนุมของกลุ่มสหภาพแรงงานด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอซึ่งประท้วงขอขึ้นค่าแรงเมื่อปี 2014 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 21 ราย ซึ่งเขามองว่าการจ้างทหารเข้าร่วมแสดงภาพยนตร์อาจจะถูกตีความว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมและให้รางวัลแก่ผู้มีส่วนร่วมในการกดขี่ประชาชนได้

นอกจากนี้ บทสัมภาษณ์ของโจลีในนิตยสารวานิตี้แฟร์ ที่อ้างอิงถึงการคัดเลือกเด็กชาวกัมพูชามาร่วมแสดงในภาพยนตร์ก็ถูกโจมตีอย่างหนักไม่แพ้กัน เนื่องจากโจลีเปิดเผยว่าทีมงานใช้วิธีสัญญาว่าจะให้เงินแก่เด็กที่มาคัดตัว ก่อนจะแกล้งยกเลิกข้อเสนอดังกล่าว เพื่อสังเกตปฏิกิริยาว่าเด็กคนไหนที่แสดงอาการผิดหวังหรือไม่พอใจมากที่สุด โดยเด็กที่เข้าร่วมคัดตัวส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน และผู้ที่อายุน้อยที่สุดอยู่ในวัย 5 ปี โดยเด็กหญิงที่ได้รับคัดเลือกให้รับบทนำบอกกับโจลีในภายหลังว่า ปู่ของเธอเสียชีวิต แต่ครอบครัวยังไม่มีเงินจัดพิธีศพ จึงอยากได้เงินดังกล่าวไปใช้จ่าย

ข้อมูลดังกล่าวทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากทวีตข้อความตำหนิโจลีว่าทำให้เด็กๆ ที่มาคัดตัวต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่เลวร้าย และอาจเข้าข่ายดูหมิ่นศักดิ์ศรี ขัดแย้งกับความตั้งใจของโจลีที่ระบุว่าต้องการสร้างหนังเรื่องนี้เพื่อกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่โจลีกล่าวว่ามีความผูกพันอย่างมาก หลังจากที่เธอเคยมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Tomb Raider เมื่อปี 2000 และแมดดอกซ์ บุตรบุญธรรมของเธอคนหนึ่ง เป็นชาวกัมพูชาเช่นกัน แต่ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โจลีถูกโจมตีในประเด็นที่เกี่ยวกับกัมพูชา เพราะเมื่อปี 2002 เธอถูกวิจารณ์มาแล้วครั้งหนึ่งจากการซื้อที่ดินเพื่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลจากอดีตผู้บัญชาการกองทัพเขมรแดง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog