ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องของเกาหลีใต้ จะส่งผลให้ค่านิยมทางสังคมที่เคยมีความเป็นอนุรักษ์นิยม เริ่มเปลี่ยนแปลงตามความทันสมัยของสังคมไปด้วย เมื่อผู้หญิงชาวเกาหลีใต้สนใจใช้บริการโฮสท์บาร์สำหรับผู้หญิงมากยิ่งขึ้น
'Bar 1 2 3' ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของย่านที่หรูที่สุดในกรุงโซล หรือย่านกังนัม กำลังได้รับความนิยมจากการเปิดธุรกิจที่ครั้งหนึ่ง ถูกมองว่าผิดจารีตและประเพณีอันดีงามของเกาหลีใต้ นั่นก็คือ ธุรกิจโฮสท์บาร์สำหรับผู้หญิง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับธุรกิจเกอิชาของประเทศญี่ปุ่น และคีแซง เฮ้าส์ของเกาหลีใต้ แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ 'Bar 1 2 3' มีพนักงานบริการเป็นผู้ชายทั้งหมดนั้นเอง
พนักงานที่ทำงานที่นี่จะเรียกว่า 'โฮสท์' โดยทุกคนจะมีรูปร่างหน้าตา ทรงผมและการแต่งกายไม่ต่างจากดาราเกาหลี ที่คนทั่วไปพบเห็นตามละครซีรีส์ หรือวงการเพลงของเกาหลีใต้ในปัจจุบัน คอยให้บริการหญิงสาวยามค่ำคืน โดยส่วนมากจะให้บริการด้วยการนั่งคุยเป็นเพื่อนเล่น ให้กับบรรดาหญิงสาวที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
นางคิม นายู ลูกค้าประจำกล่าวว่า เธอมาที่นี่ทุกวัน เพื่อมาคุยเล่นกับโฮสท์คนสนิทของเธอที่ชื่อ ซุง อิล หรือบางทีเธอก็มาเพื่อปรับทุกข์จากปัญหาที่เธอได้รับหลังการทำงาน โดยนางคิม นายู กล่าวว่า บางที การนั่งคุยกับเพื่อนของเธอเอง เพื่อนอาจไม่ตั้งใจฟังปัญหาของเธอ เหมือนกับโฮสท์เหล่านี้ หลายคนอาจเลือกปรึกษาปัญหาชีวิตกับจิตแพทย์ แต่กลับมีความเครียดมากกว่าเดิม ดังนั้น เธอคิดว่าการมาที่โฮสท์บาร์แห่งนี้ คือวิธีที่ดีที่สุด
ซุง อิล หนึ่งในโฮสท์ เล่าว่า พวกเขาที่ประกอบอาชีพนี้ พร้อมที่จะเปิดเผยถึงอาชีพการงานของเขา เพราะพวกเขาไม่ใช่โสเภณีชาย ที่ต้องทำงานแบบหลบซ่อน ถึงแม้ว่าบางครั้ง อาจมีความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้า แต่ก็ไม่เคยมีอะไรเสียหายเกินเลย อย่างเช่น การมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกเงิน เพราะถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าลูกค้าบางคนจะแสดงความต้องการก็ตาม
เจ้าของโฮสท์บาร์ดังกล่าว เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าสนใจคือลูกค้ากว่าร้อยละ 40 ของร้าน กลับเป็นผู้หญิงที่ประกอบอาชีพเป็นโฮสท์ในโฮสท์บาร์สำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เปิดมาช้านานและได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมเกาหลีใต้ เพราะผู้ชายยังถือว่าเป็นเพศที่อยู่เหนือผู้หญิงอยู่เสมอ
จากการสอบถามความเห็นของผู้หญิงที่ประกอบอาชีพโฮสท์สำหรับผู้ชายนั้น พวกเขาต้องการกระทำเช่นเดียวกับสิ่งที่พวกเขาถูกกระทำจากผู้ชายเหล่านั้น พวกเขาอยากใช้เงินที่เขามีซื้อความสุขจากพวกผู้ชายบ้าง อยากเป็นคนที่มีอำนาจเหนือกว่า อยากเป็นฝ่ายควบคุม เป็นต้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางด้านสังคมศาสตร์ มองว่า ปรากฏการณ์ทางสังคมเช่นนี้ มาจากการที่เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เติบโตเร็วเกินไป ทำให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างต้องทำงานหนักเพื่อความอยู่รอดในสังคมที่มีการแข่งขันสูง ส่งผลให้ชาวเกาหลีใต้ส่วนมากมีอาการซึมเศร้าและเหงาหลังการทำงาน โดยผู้ชายมักมีวิธีระบายความเครียดต่างๆ นานา ขณะที่ผู้หญิงกลับทำไม่ได้ในอดีต ซึ่งธุรกิจโฮสท์บาร์แห่งนี้ จึงกลายเป็นคำตอบที่สำคัญให้กับผู้หญิงชาวเกาหลีใต้ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการโฮสท์บาร์สำหรับผู้หญิงในเกาหลีใต้ ยังคงถือเป็นความท้าทายของสังคม ที่ยังหลงเหลือความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยมที่ว่าเพศชายย่อมเป็นใหญ่ เพราะการทำงานของผู้ชายเหล่านี้ ซึ่งถูกผู้หญิงเลือกและควบคุมให้อยู่ในอาณัติตลอดช่วงเวลาที่พวกเขาถูกว่าจ้างนั้น ดูเหมือนว่าจะตรงข้ามกับค่านิยมของสังคมอย่างสิ้นเชิง