ไม่พบผลการค้นหา
การพิจารณาคดีนายหวังลี่��ุน ถือว่าเป็นจิกซอว์ตัวสุดท้ายที่ไขปริศนาการปลดนายโปชิไหล ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวที่สั่นคลอนเสถียรภาพของจีนมานานหลายเดือน แต่หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีครั้งนี้อาจเป็นเพียงการจัดฉาก

การพิจารณาคดีนายหวังลี่จุน ถือว่าเป็นจิกซอว์ตัวสุดท้ายที่ไขปริศนาการปลดนายโปชิไหล ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวที่สั่นคลอนเสถียรภาพของจีนมานานหลายเดือน แต่หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีครั้งนี้อาจเป็นเพียงการจัดฉากเพื่อให้เรื่องอื้อฉาวนี้จบลงโดยเร็วก่อนารเปลี่ยนผ่านผู้นำในเดือนหน้า 

 

การนำตัวนายหวังลี่จุน อดีตนายตำรวจมือขวาของนายโปชิไหล เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครฉ่งชิ่งที่ถูกปลดจากตำแหน่งอย่างกะทันหันเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาขึ้นพิจารณาคดีในศาล หลังจากเขาหายไปจากการรับรู้ของสาธารณชนตั้งแต่หลังถูกจับกุมตัวที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐฯประจำนครฉ่งชิ่ง ถือเป็นความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะปิดฉากเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองครั้งใหญ่เกี่ยวกับการปลดนายโปชิไหล และอาจเป็นโอกาสสำคัญในการไขความกระจ่างถึงเบื้องหลังการปลดบุคคลระดับสูงเช่นนายโปชิไหล ที่ก่อนหน้านี้มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานาอย่างสลับซับซ้อน

 

นายหวังลี่จุน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปลดนายโปชิไหล โดยกรณีดังกล่าวกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนทั้งในจีนเองและทั่วโลกเป็นครั้งแรก เมื่อนายหวังเดินทางเข้าไปในสถานกงสุลสหรัฐฯโดยไม่ทราบสาเหตุ และอยู่ในนั้นนานถึงกว่า 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนล้อมสถานกงสุลอยู่โดยรอบ และนายหวังก็ถูกจับกุมตัวไปทันทีหลังจากออกมาจากสถานกงสุล ซึ่งในขณะนั้น ความเคลื่อนไหวของนายหวังเป็นปริศนาที่ถูกคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าเหตุใดเขาจึงกล้ากระทำการที่ดูน่าสงสัยและเป็นการหักหน้ารัฐบาลจีนอย่างรุนแรงเช่นนี้ และส่วนใหญ่คาดเดาว่านายโปชิไหล เจ้านายของนายหวังอาจจะพัวพันในเรื่องดังกล่าวด้วย

 

หลังจากนั้นไม่นาน ปริศนาก็เริ่มกระจ่างชัดขึ้น เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนสั่งปลดนายโปชิไหลอย่างกะทันหัน ซึ่งถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอย่างมาก ในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นคณะผู้นำชุดต่อไปของจีน ทำให้เป็นที่แน่ชัดว่า นายหวังน่าจะกุมความลับสำคัญของนายโปชิไหล และต้องการนำความลับดังกล่าวไปต่อรองแลกเปลี่ยนกับความคุ้มครองจากสหรัฐฯ แต่ไม่สำเร็จและความลับดังกล่าวก็ได้รั่วไหลไปถึงทางการจีน ซึ่งควบคุมตัวนายหวังไว้ได้

 

และเพียงไม่นานหลังการปลดนายโปชิไหล ก็มีการเปิดเผยการทุจริตและใช้อำนาจในทางมิชอบของเขาหลายกรณี แต่เรื่องที่โด่งดังที่สุด ก็คือการที่นายโปชิไหล ใช้อำนาจปกปิดความผิดของภรรยา ที่ก่อเหตุฆาตรกรรมนายนีล เฮย์วูด นักธุรกิจชาวอังกฤษจากความขัดแย้งทางธุรกิจ โดยการพิจารณาคดีนางกู่ไกไหลที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเปิดเผยว่า ข้อมูลที่นายหวังต้องการนำไปแลกเปลี่ยนกับสหรัฐฯ ก็คือหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการฆาตรกรรมดังกล่าว

 

เมื่อคดีของนางกู่ไกไหลเสร็จสิ้นไปแล้วโดยเธอต้องรับโทษประหารชีวิตโดยรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงโทษจำคุกตลอดชีวิต การพิจารณาคดีนายหวังลี่จุน จึงเป็นบทสรุปของมหากาพย์เรื่องอื้อฉาวทางการเมืองที่สั่นคลอนเสถียรภาพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างหนัก ในช่วงเวลาสำคัญก่อนการเปลี่ยนผ่านผู้นำ

 

อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนจากบรรดานักเคลื่อนไหวและนักวิจารณ์ รวมถึงสังคมออนไลน์ในจีน กลับไม่คิดว่าการดำเนินคดีนายหวังลี่จุน จะเป็นการจบเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้อย่างโปร่งใส เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่ในคดีของนางกู่ไกไหลว่าการพิจารณาคดีเป็นการตั้งธงไว้ก่อน และถึงกับมีการกล่าวหาว่านางกู่ไกไหลที่มาปรากฏตัวในศาลเป็นตัวปลอม

 

ส่วนในคดีของนายหวังลี่จุน การที่การพิจารณาคดีเกิดขึ้นล่วงหน้า 1 วันก่อนกำหนดการณ์ที่แจ้งให้สื่อทราบโดยไม่มีการชี้แจงเหตุผล และทางศาลก็ยังไม่อนุญาตให้สื่อต่างชาติเข้าไปร่วมฟังการพิจารณาคดี ทำให้ความพยายามของจีนที่จะยุติเรื่องอื้อฉาวของนายโปชิไหลอย่างโปร่งใสและชอบธรรมด้วยการให้มีการพิจารณาคดีในชั้นศาล ดูเหมือนจะได้ผลในทางตรงกันข้าม

 

เนื่องจากความผิดปกติในการดำเนินคดีผู้เกี่ยข้องกับเร่องอื้อฉาวนี้ ผนวกกับเรื่องราวที่ดูซับซ้อนซ่อนเงื่อน ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการสร้างเรื่องจัดฉากใส่ร้ายนายโปชิไหล ผู้มีแนวคิดทางการเมืองตรงข้ามกับนายสีเจี้ยนผิง ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของจีน และมีอำนาจและคะแนนนิยมเพียงพอที่จะเป็นคู่แข่งนายสี ยังคงเป็นประเด็นที่ดูน่าเชื่อถือกว่าการจะเชื่อว่า จีนสั่งปลดผู้นำระดับสูงของพรรคเพียงเพราะการใช้อำนาจในทางมิชอบปกป้องภรรยา

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog