ไม่พบผลการค้นหา
นับเฉพาะปี 2560 รัฐบาลทหารไทยอนุมัติแผนซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มูลค่าอย่างน้อย 29,600 ล้านบาท ทัพฟ้าได้เครื่องบิน ทัพเรือได้เรือดำน้ำ ทัพบกได้รถถัง รถเกราะ และฮ.แบล็กฮอว์ก

นับเฉพาะปี 2560 รัฐบาลทหารไทยอนุมัติแผนซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มูลค่าอย่างน้อย 29,600 ล้านบาท ทัพฟ้าได้เครื่องบิน ทัพเรือได้เรือดำน้ำ ทัพบกได้รถถัง รถเกราะ และฮ.แบล็กฮอว์ก

 

ตั้งแต่รัฐประหารปี 2557 เป็นต้นมา รัฐบาลทหารของไทยจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 งบกลาโหมสูงขึ้นกว่า 4,300 ล้านบาท (AFP, 8 Sept. 2017) เงินก้อนโตถูกใช้จ่ายไปกับการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์

 

ในปีนี้ การอนุมติซื้ออาวุธของคณะรัฐมนตรี เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2 ครั้ง, เดือนมิถุนายน 2 ครั้ง, และล่าสุดเมื่อ 11 กรกฎาคม

 

ลองจิ้มเครื่องคิดเลขดู นับเฉพาะช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา เอาเฉพาะที่มีการเปิดเผย ครม.ไฟเขียวให้ซื้อไอเท็มต่างๆ รวมมูลค่า 29,600 ล้านบาท

 

ตัวเลขนี้คือยอดเงินเฉพาะที่อนุมัติให้ใช้ในปี 2560 เท่านั้น ไม่นับรวมถึงวงเงินที่ตั้งไว้เป็นงบผูกพัน อย่างที่รู้กัน อาวุธยุทโธปกรณ์หลายรายการจะทยอยซื้อทยอยจ่ายตลอดระยะเวลาหลายปีข้างหน้า

 

ทัพฟ้าได้เครื่องบิน

 

ในปีนี้ กองทัพอากาศนับเป็นเหล่าทัพล่าสุดที่ได้ไฟเขียวจากครม. หลังจากทัพเรือได้เรือดำน้ำ และทัพบกได้รถถัง รถเกราะ และเฮลิคอปเตอร์ ไปแล้ว

 

คณะรัฐมนตรีมีมติในวันที่ 11 กรกฎาคม อนุมัติให้กองทัพอากาศซื้อเครื่องบินเอนกประสงค์ รุ่น T-50 จากเกาหลีใต้ จำนวน 8 ลำ มูลค่า 8,800 ล้านบาท

 

การจัดซื้อครั้งนี้เป็นเฟสสอง ต่อเนื่องจากเฟสแรกเมื่อปี 2558 ซึ่งครั้งก่อนสั่งซื้อจำนวน 4 ลำ เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกรุ่นเก่า ซึ่งใช้งานมานาน 20 ปี (Bangkok Post, 11 July 2017)

 

ทัพเรือได้เรือดำน้ำ

 

ดีลที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุด คือ แผนซื้อเรือดำน้ำจากจีน ซึ่งไม่มีการแถลงข่าวการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี มีเพียงการยอมรับของโฆษกรัฐบาลว่า รัฐบาลอนุมัติไปแล้ว

 

สื่อมวลชนรายงานเมื่อวันที่ 24 เมษายน ว่า รัฐบาลได้อนุมัติแผนซื้อเรือดำน้ำของจีนแล้วตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด บอกกับนักข่าวว่า ข่าวนี้เป็นความจริง แต่เขาชี้แจงว่า “ไม่มีอะไรเป็นลับลมคมใน”  (ไทยโพสต์, 25 เมษายน 2560

 

ตามแผนการนี้ กองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำ รุ่น S26T ลำแรก ราคาลำละ 13,500 ล้านบาท โดยจะทยอยซื้อจนครบ 3 ลำ รวมมูลค่า 36,000 ล้านบาท (Jane’s 360)

 

ทัพบกได้รถถัง

 

อาวุธล็อตใหญ่นอกเหนือจากเรือดำน้ำจีน คือ รถถังจีน กับรถเกราะจีน

 

คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 4 เมษายน อนุมัติให้ซื้อรถถัง รุ่น VT-4 จำนวน 10 คัน มูลค่า 2,000 ล้านบาท และมีแผนจะซื้อเพิ่มอีก 11 คันในระยะต่อไป

 

อันว่ารถถัง VT-4 ของจีนนี้ กองทัพบกเคยสั่งซื้อแล้วครั้งหนึ่งในในยุคพล.อ.ธีรชัย นาควานิช เป็นผบ.ทบ. เมื่อช่วงปี 2558-2559 จำนวน 28 คัน เมื่อมาถึงยุคของพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาทในปัจจุบัน กองทัพบกได้จัดหาเพิ่มเติม (AFP, 4 April 2017 ; ไทยโพสต์, 5 เมษายน 2560

 

กองทัพบกได้รับข่าวดีอีกครั้งเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติในวันที่ 13 มิถุนายน อนุมัติให้ซื้อรถเกราะล้อยาง รุ่น VN1 จำนวน 34 คัน มูลค่า 2,300 ล้านบาท (มติชนออนไลน์, 13 มิถุนายน 2560 ; Reuters, 14 June 2017)

 

ข่าวดีคำรบสามมาถึงกองทัพบกอีกรอบเมื่อสภาคองเกรสของสหรัฐฯเห็นชอบคำขอของรัฐบาลไทย ที่จะซื้อเฮลิคอปเตอร์ รุ่น Black Hawk เพิ่มอีก 4 ลำ ราคาลำละ 750 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3,000 ล้านบาท

 

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ว่า คำขอดังกล่าวสืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 ที่อนุมัติแผนจัดซื้อจัดหาดังกล่าว

 

กองทัพบกจะทยอยซื้อตั้งแต่ปีงบประมาณปัจจุบันจนถึงปีงบประมาณ 2562 เวลานี้ ทบ.มีแบล็กฮอว์กอยู่ 12 ลำ ตั้งเป้าที่จะซื้อให้ครบฝูง 16 ลำ. (Bangkok Post, 30 June 2017)

 

เดิมกองทัพบกคาดหมายว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหยิบยกเรื่องความร่วมมือทางทหาร ซึ่งรวมถึงการซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์ ขึ้นหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในโอกาสเยือนกรุงวอชิงตันในเร็วๆนี้ แต่ล่าสุดดูเหมือนกำหนดการเยือนจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว

 

การเลื่อนหรือยกเลิกการเยือนสหรัฐฯของพล.อ.ประยุทธ์ จะส่งผลอย่างไรต่อแผนจัดหาอาวุธของกองทัพไทยหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป.

 

Photo: AFP (file)

 

 

 

 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog