โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์  ซัดประตูชัยก่อนหมดเวลานาทีเดียวให้ เบอร์มิงแฮม คว้าแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาลนี้

คาร์ลิ่ง คัพ รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554

อาร์เซนอล 1-2 เบอร์มิงแฮม
สนาม :เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม
ประตู : 0-1 นิโกล่า ซิกิซ  น.28,1-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  น.39 ,1-2 โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ น.89

โอบาเฟมี มาร์ตินส์ มาเป็นซูเปอร์ซับท้ายเกมด้วยการยิงประตูชัย จากความผิดพลาดของผู้เล่นอาร์เซนอล ทำให้ เบอร์มิงแฮม ผงาดคว้าแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ในฤดูกาลนี้ไปครอง

อาร์แซน เวนเกอร์  เกมนี้ไม่มี  เชส ฟาเบรกาส กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่มีอาการเจ็บแต่ทว่า อังเดร อาร์ชาวิน กับ  โทมัส โรซิคกี้ ลงทำเกมในแดนกลางได้  ส่วน โลร็องต์ กอสเซลนี กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ฟิตลงเล่นเป็นตัวจริง

ทางฝั่ง  อเล็กซ์ แม็คลีช บิ๊กบอสเบอร์มิงแฮม ไม่มีเรื่องให้กังวลสำหรับ "เดอะบลูส์" เบอร์มิงแฮม โดยปรับแท็คติกมาเล่นแบบ 4-5-1 อัดกลางแน่นด้วยการใส่ คีธ ฟาฮีย์ ลงไปเพิ่ม และทิ้ง นิโกลา ซิกิซ ไว้เป็นหน้าเป้า

เริ่มเกม เบอร์มิงแฮม ลุยใส่ทันทีนาทีที่ 2 แฟนๆ "ลูกโลก" พลาดโอกาสได้เฮ กันเมื่อ ลี โบว์เยอร์ หลุดเข้ากรอบโทษโดน เซเซสนี   รวบล้มและน่าจะเป็นจุดโทษ ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าอย่างน่ากังขา เพราะยังมี กาแอล กลิชี ยืนห้อยเป็นคนสุดท้าย

ถัดมาเป็นทีของ อาร์เซนอล เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี จ่ายให้ อังเดร อาร์ชาวิน หลุดเข้าไปกลับตัวยิงด้วยซ้ายทว่าบอลบด เบน ฟอสเตอร์ รับกินสบาย

เกมอึดอัดอยู่นานก่อนที่นาที  28 เป็นทางด้าน เบอร์มิงแฮม มาออกนำ 1-0 เมื่อ เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดลูกเตะมุมให้ โรเจอร์ จอห์นสัน โหม่งตั้งให้ นิโกล่า ซิกิซ อาศัยความสูงโขกเช็ดเปลี่ยนทางแม้ เซสนี ชกได้แต่บอลก็เข้าไปซุกก้นตาข่าย

6 นาทีต่อมา เบอร์มิงแฮม ชวดโอกาสได้ประตูเพิ่มเมื่อ   เคร็ก การ์ดเนอร์ พักอกจะเล่นในกรอบโทษทว่าโดน โยฮัน โฌรู กระแทกล้มลงไป ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน มองว่าเป็นลูกได้เปรียบและบอลไปถึง ซิกิซ ทว่าดาวยิงชาวเซิร์บดันแปไปติดบล็อก เซสนี ที่ออกมาเร็ว

ก่อนเข้าไปพัก 6 นาที  อาร์เซนอล ตามตีเสมอเป็น  1-1 จากจังหวะที่ แจ็ค วิลเชียร์ ยิงไปชนคาน และลูกมาเข้าทาง อังเดร อาร์ชาวิน ก่อนเปิดให้  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ วอลเลย์ด้วยขวาเสียบเสา จบครึ่งแรกทั้งคู่สกอร์เท่ากัน 1-1

กลับลงมาในครึ่งหลัง  อาร์เซนอล ไม่รอช้าเดินหน้ารุกใส่ทันที บาการี่ ซานญ่า เติมไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบไปเสาสองให้ โทมัส โรซิคกี้ แปบอลหลุดเสาไปแบบเกือบได้เฮ  

 นาที 57  เบอร์มิงแฮม  เกือบขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ คีธ ฟาฮีย์ ยิงจังหวะแรกไปติด ซิกิซ  กระดอนมาเข้าทางตัวเองอีกครั้งจึงกดด้วยขวาบอลพุ่งไปโดนเสา

เกมของทั้งคู่เรียกว่าสู้กันอย่างสนุกสูสี นาที 75 ซาเมียร์ นาสรี ลากตะลุยเข้ามายิงด้วยขวาบอลพุ่งแรง ฟอสเตอร์ ต้องปัดทิ้งออกมา ถัดมา เบนด์ทเนอร์ ลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาบอลแฉลบ สตีเฟน คาร์ เล็กน้อยแต่ ฟอสเตอร์ ยังไวคว้ามือเดียวก่อนตามรับในจังหวะที่สอง

โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ซัดประตูชัย

เกมทำท่าว่าจะจบแบบต้องต่อเวลาออกไป อีก 30 นาที แต่แล้วก่อนจบเกมนาทีเดียว จากลูกเปิดของ  เบน ฟอสเตอร์ และเป็น นิโกล่า ซิกิช ที่โหม่งเช็ด จากจังหวะที่ไม่มีอะไรแต่กลายเป็นความผิดพลาดของ กอสเซียลนี่ที่พยายามจะง้างเท้าเคลียร์สกัด แต่ดันสื่อสารไม่เข้าใจกับ  เซเซสนี  ทำให้บอลกระฉอกมาเข้าทาง โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ที่เพิ่งลงมาได้เพียง 6 นาที รับส้มหล่นยิงเข้าไปง่ายๆ  จบ 90 นาที เบอร์มิงแฮม ชนะ 2-1 คว้าแชมป์ คาร์ลิง คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปีได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมได้สิทธิไปเตะถ้วยยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2011/12

รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : วอจ์เซียช เซเซสนี  , บาการี่ ซานญา , โยฮัน โฌรู ,โลร็องต์ กอสเซลนี ,กาแอล กลิชี่ , อเล็กซานเดอร์ ซง , แจ็ค วิลเชียร์ , อังเดร อาร์ชาวิน (มารูยาน ชามัคห์ น.77) , โทมัส โรซิคกี , ซาเมียร์ นาสรี , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (นิคลาส เบนท์เนอร์ น.70)

เบอร์มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์ , สตีเฟน คาร์ , มาร์ติน ยิราเน็ค , โรเจอร์ จอห์นสัน , เลียม ริดจ์เวลล์ , เซบาสเตียน ลาร์สสัน , ลี โบว์เยอร์ , แบร์รี่ เฟอร์กูสัน , เคร็ก การ์ดเนอร์ (ฌอน บัวเซฌูร์ น.50) , คีธ ฟาฮีย์ (โอบาเฟมี มาร์ตินส์ น.83) , นิโกลา ซิกิซ (คาเมรอน เฌอโรม น.90)

ผู้ตัดสิน: ไมค์ ดีน

วิลเชียร์ เศร้า!!

Produced by VoiceTV