ไม่พบผลการค้นหา
มติ กกต. แจกใบส้ม 'สุรพล' ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พร้อมสั่งให้เลือกตั้งใหม่ พ่วงระงับสิทธิสมัครเลือกตั้งชั่วคราว 1 ปี เล็งจัดเลือกตั้ง พ.ค.นี้ ขณะที่ 'สุรพล' จ่อแถลงแจงข้อเท็จจริง ยันไม่ได้รับเป็นธรรม เพียงบริจาคเงินทำบุญให้วัด ปัดซื้อเสียง

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า กกต.ได้พิจารณาเรื่องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 โดยนายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 หมายเลข 8 พรรคเพื่อไทย กรณีให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง โดยกกต.มีมติสั่งให้ระงับสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 1 ปี (ใบส้ม) แก่นายสุรพลให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งนายสุรพล พร้อมสั่งยกเลิกการเลือกตั้งและให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ใหม่ และให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุรพล

นายแสวง กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. อาจเกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันที่ 9 พ.ค. โดยใช้บัญชีผู้สมัครรับเลือกตั้งเดิม ไม่เปิดให้มีการรับสมัครใหม่ ซึ่งจะไม่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยลงแข่งขัน โดยจะนำคะแนนจากการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ไปใช้คิดคำนวณเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

นายแสวง ระบุว่า ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสำนวนคดีนี้ได้เนื่องจากเป็นความลับ ซึ่งเป็นไปตามมติของ กกต.หลังจากที่ได้รวบรวมข้อเท็จจริงจนฟังได้ว่าจนสิ้นกระแสความและมีมติออกมา แม้นายสุรพลจะกล่าวอ้างว่าเป็นการบริจาคเงินให้กับวัดก็ตาม ซึ่งได้เปิดโอกาสให้นายสุรพลได้ชี้แจงข้อกล่าวหามาพอสมควรแล้ว

'สุรพล' จ่อแถลงแจงยันแค่ทำบุญให้วัด ปัดซื้อเสียง

ขณะที่นายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย ระบุว่า กรณี กกต.มีมติแจกใบส้มระงับสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 1 ปีและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 8 จังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่าไม่เป็นธรรม และเห็นว่าการทำงานต้องมีดุลพินิจแยกแยะ ว่าการทำบุญเพื่อบริจาคเพียง 2,000 บาท กับการจ่ายเงินเพื่อคะแนนเสียงมีความแตกต่าง 

สำหรับการแจกใบส้มนั้น นายสุรพล มองว่า คงไม่มีสิทธิต่อสู้ เพราะการทำงานกกต.มีสิทธิชี้ขาดว่าจะพิจารณาอย่างไร ตัดสิทธิอย่างไร แต่ก็จะขอความเป็นธรรมอย่างน้อยที่สุดเพื่อให้ประชาชนที่เลือกมา ทราบข้อเท็จจริง โดยส่วนตัวจะแถลงในวันที่ 25 เม.ย.นี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ทำไม่ผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญด้วยการเลือกตั้งส.ส. ไม่ใช่การสัญญาว่าจะให้ เป็นการบริจาคให้กับครูบาและพระดังกล่าวก็ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน จึงต้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้สังคมได้รู้ข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันต้องการให้ กกต. ไปตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพรรคใดแจกเงินซื้อเสียง มากน้อยเพียงใด มีการแจกรายละ 500 บาทหรือไม่ ซึ่งแต่ละเขตใช้เงินหลายล้านบาท