พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมบังคบใช้แล้ววันนี้ (24 พ.ค.) ให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ร้องต่อศาลให้ระงับลบข้อมูลขัดความสงบเรียบร้อยออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้ กรณีนำเข้าสู่ระบบคอมฯผิดความมั่นคง โทษจำคุก5ปี
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นการแก้ไขฉบับ พ.ศ.2550 ได้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (24 พ.ค.2560) เป็นวันแรกแล้ว
โดยเนื้อหาสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้มีดังนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาการ พ.ร.บ.นี้
มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ออกกฎกระทรวงและประกาศ
มาตรา 11
ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ แก่ผู้รับข้อมูล โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับบอกเลิก ปฏิเสธ
โทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท
มาตรา12/1
-ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่น
กระทำการเพื่อให้การทำงานคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ รบกวน เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น
โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ถ้าเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
โทษจำคุก 5-20ปี ปรับ 100,000 - 400,000 บาท
มาตรา 14
1.ทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นเท็จ
2.นำเข้าสู่ะบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเท็จ เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นความผิดความมั่นคง ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย
4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันลามก ข้อมูลนั้นประชาชนอาจเข้าถึงได้
5.เผยแพร่ ส่งต่อ ตาม ข้อ1-4
โทษจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 15
ผู้ให้บริการผู้ใด ยินยอม รู้เห็นเป็นใจให้กระทำผิด ตามมาตรา 14
โทษจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 16
-นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตัดต่อ เติม ดัดแปลงภาพผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ได้รับความอับอาย
-ถ้าเป็นการกระทำต่อภาพของผู้ตาย ทำให้บิดา มารดา คู่สมรส บุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ได้รับความอับอาย
โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
-ถ้านำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ผู้กระทำไม่มีความผิด
ความผิดตามมาตรา 16 เป็นความผิดอันยอมความได้
มาตรา 17/1
คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง มี 3 คน (1คน เป็นพนักงานสอบสวนตาม ป.อาญา)
ผุดคณะกรรมการร้องศาลเซ็นเซอร์ข้อมูลขัดสงบเรียบร้อย
มาตรา 20
พนักงานเจ้าหน้าที่ ยื่นร้องต่อศาล แสดงพยานหลักฐาน ให้ระงบการแพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์
1.ข้อมูลความผิด ตาม พ.ร.บ.นี้
2.ข้อมูลที่อาจกระทบความมั่นคง
3.ข้อมูลความผิดอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ข้อมูลขัดต่อความสงบเรียบร้อย
-คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ จำนวน 9 คน (3คนมาจากผู้แทนภาคเอกชน ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านสื่อสารมวลชน ด้านเทคโนโยลีสารสนเทศ ด้านอื่น)
แต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ
-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯโดยความเห็นชอบคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ จะมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งระงับ ลบ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยออกจากระบบได้
มาตรา 26
-ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
-พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกิน 90วันแต่ไม่เกิน 2 ปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายได้
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกําเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของการบริการ หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมต่อการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งมีรูปแบบการกระทําความผิดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและโดยที่มีการจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมซึ่งมีภารกิจในการกําหนดมาตรฐานและมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
รวมทั้งการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ สมควรปรับปรุงบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับผู้รักษาการตามกฎหมาย กําหนดฐานความผิดขึ้นใหม่ และแก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดเดิม รวมทั้งบทกําหนดโทษของความผิดดังกล่าว การปรับปรุงกระบวนการและหลักเกณฑ์ในการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตลอดจนกําหนดให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบ ซึ่งมีอํานาจเปรียบเทียบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติมอํานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
อ่านเพิ่มเติม - พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560