อาหารพม่าอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เทียบไม่ได้กับอาหารไทยที่ดังไกลทั่วโลก แต่ในยุคที่เมียนมา กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนในฐานะประเทศเปิดใหม่ อาหารพม่าได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักกินทั่วโลก
กว่า 50 ปีมาแล้วที่เมียนมาปิดประเทศอยู่ใต้รัฐบาลเผด็จการทหาร เศรษฐกิจถูกแช่แข็ง การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเมียนมาเริ่มเปิดประเทศรับการลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะหลังจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของพรรค NLD นำโดยนางอองซาน ซูจี ขึ้นมาบริหารประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์ของเมียนมาเปลี่ยนจาก "ฤๅษีแห่งเอเชีย" มาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต และยังมีช่องว่างสำหรับการลงทุนอีกมาก
แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของเมียนมาจะยังไม่พร้อมรับต่างชาติมากนัก การคมนาคมสื่อสารยังไม่สะดวก และหลายพื้นที่ยังคงถูกยึดครองโดยหลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ แต่เสน่ห์แบบดิบๆและความเป็นเอกลักษณ์ของเมียนมากลับถูกใจนักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน ที่นิยมเที่ยวสถานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และมีความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นสูง
จุดเด่นนี้ของเมียนมาเห็นได้อย่างชัดเจนจากความนิยมในอาหารพม่าที่เริ่มเฟื่องฟูขึ้นพร้อมกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยว เดิมอาหารพม่าแทบไม่เป็นที่รู้จัก แม้แต่ในหมู่เพื่อนบ้านอาเซียน แต่ปัจจุบัน ในย่างกุ้งกลับเต็มไปด้วยร้านอาหารพม่า ซึ่งคำว่าอาหารพม่า ไม่ได้หมายถึงแค่อาหารเชื้อชาติพม่าจริงๆ ซึ่งเค็มและมันจัด จนไม่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติมากนัก แต่รวมไปถึงอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะอาหารฉาน หรือไทใหญ่ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารลาว ไทย และจีนเข้าด้วยกัน แถมยังอุดมไปด้วยผัก ถั่ว และสมุนไพร รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป ตอบโจทย์รักสุขภาพ ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติอย่างรวดเร็ว
นิตยสาร Travel&Leisure ถึงกับเขียนบทความคาดการณ์ว่าอาหารพม่า กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของโลก ที่กำลังได้รับความนิยม ในฐานะอาหารที่มีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารยอดนิยมของคนทั่วโลกอย่างไทย จีน และอินเดีย แต่มีลักณะเฉพาะตัวโดดเด่น Travel&Leisure ยกตัวอย่างร้านอาหารที่กำลังโด่งดังในย่างกุ้ง "Shan Yoe Yar" (ฉานโยยาร์) ภัตตาคารที่ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ไม้สักอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี ภายในตกแต่งแบบโคโลเนียลเคร่งขรึมและโชว์หัตกรรมท้องถิ่นของชาวไทใหญ่ ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทใหญ่แท้ แต่ปรับโฉมให้มีความหรูหราและเป็นสากล ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่สามารถหาได้ในเมียนมา หากนับถอยหลังไป 5 ปีที่แล้ว การกินอาหารพม่ามีเพียง 2 ทางเลือก คืออาหารท้องถิ่นริมทางที่ค่อนข้างไม่ถูกสุขอนามัย และอาหารพม่าแท้เค็มจัดชุ่มน้ำมัน ซึ่งชาวต่างชาติไม่สามารถเข้าถึงได้
นอกจากอาหารพม่า อีกความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองก็คือการเติบโตของร้านอาหารต่างชาติในย่างกุ้ง หลังจากหยุดนิ่งมานานใต้รัฐบาลทหาร ย่างกุ้งกำลังเติบโตและเปิดรับคนต่างชาติเข้าไปทำธุรกิจมากขึ้น คนพม่าที่จบการศึกษาจากตะวันตกแล้วกลับมาเปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่ของตัวเองก็มีไม่น้อย ทำให้ภูมิทัศน์อาหารของย่างกุ้งถือว่ากำลังเฟื่องฟู และสำหรับนักชิมทั่วโลก เมียนมากำลังเป็นขุมทรัพย์ใหม่ที่ท้าทายและน่าลิ้มลอง ในยุคที่เมืองขึ้นชื่อเรื่องความเป็นครัวโลกอย่างกรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์ เริ่มถึงจุดอิ่มตัว
