ไม่พบผลการค้นหา
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์รับคำร้องตีความสถานะ ส.ส. ‘สิระ เจนจาคะ’ แต่ไม่สั่งให้พักงาน ส.ส. พร้อมสั่งให้ ‘เรืองไกร’ แก้ไขคำร้องตีความแก้ รธน.เข้าข่ายล้มล้างการปกครองภายใน 15 วัน

วันที่ 3 ก.พ. 2564 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวผลประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีมติเอกฉันท์รับพิจารณาคำร้องของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่ยื่นให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 9  พรรคพลังประชารัฐ กรณีเคยถูกศาลแขวงปทุมวัน พิพากษาโทษจำคุก 4 เดือน ในคดีฉ้อโกง จะทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบ มาตรา 98(10) โดยศาลยังไม่สั่งให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากยังไม่ปรากฎหลักฐานว่าคดีดังกว่าวถึงที่สุดว่ากระทำความผิด ทั้งนี้ได้สั่งให้ สิระ ในฐานะผู้ถูกร้องยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับคำร้อง

ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญ ยังสั่งให้เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. ผู้ร้อง แก้ไขเพิ่มเติมคำร้องภายใน 15 วัน ในคำร้องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการลงมติรับหลักการของสมาชิกรัฐสภา ในญัตติแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ของ ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 และเป็นการใช้บังคับไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 5(1)ด้วย 

ส่วนคำร้องของณฐพร โตประยูร ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นการทำลายหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในรัฐสภา และหลักการตรวจสอบโดยประชาชน ตามมาตรา 3 มาตรา 49 และมาตรา 255 และ 256 ประกอบกับมาตรา 5 หรือไม่ และเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมขอให้ศาลสั่งให้รัฐสภายกเลิกการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยศาลฯได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ เห็นว่าคำร้องนี้มีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวพันกับคำร้องของ เรืองไกร ที่ศาลสั่งให้ไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้คำร้องมีความสมบูรณ์ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของการพิจารณาจึงเลื่อนการพิจารณาคำร้องดังกล่าวออกไปก่อน