ธุรกิจกงสี เป็นระบบธุรกิจครอบครัวที่สร้างอาณาจักรธุรกิจจนยิ่งใหญ่ระดับโลกก็มีมาแล้ว ส่วนที่หัวหิน กลุ่มจี้อันตึ๊ง ที่ล่าสุดโดดเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ G HUAHIN ผุดบูติครีสอร์ทหรูขึ้นสู้

ระบบทุนนิยม เป็นระบบเศรษฐกิจ ที่บางคนให้คำนิยามว่าเป็น ระบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก

แต่กูรูธุรกิจบางท่านก็บอกว่า ปลาเล็กย่อมได้เปรียบในเรื่องการเคลื่อนไหวรวดเร็ว และคล่องตัว กระนั้น จะรอดได้ ต้องไว เก่ง และต้อง เฮง

ใน หัวหิน เมืองที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาลงทุนของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ว่าทั้ง เอสซีแอสเซท , แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ , แสนสิริ หรือรายอื่นๆ ต่างโถมเข้าไปลงทุนในพื้นที่กันแบบเต็มอัตราศึก ทั้งคอนโด บ้านแนวราบ หรือแม้กระทั่งธุรกิจโรงแรมก็ยังมีเชนใหญ่ จากต่างชาติเข้ามากันเพียบ

"จี้อันตึ๊ง" กลุ่มธุรกิจเก่าแก่ของเมืองหัวหิน ที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ภายใต้การนำของ "ชูชาติ โฆฆิตชัยวัฒน์" หัวเรือใหญ่แห่งจี้อันตึ๊ง ซึ่งบุกเบิกมาจากธุรกิจร้านขายยา ก่อนโดดเข้าสู่การทำกิจการโรงพิมพ์ กระทั่งมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหัวหินสาส์นอยู่ในมือ แล้วต่อยอดสู่ธุรกิจเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น โรงรับจำนำ และธุรกิจด้านการบริการ ซึ่งประเดิมด้วย การเข้ามาทำโรงแรมบ้านพักจี้อันตึ๊ง เมื่อ 4 ปีก่อน จากเซอร์วิทอาพาร์ทเม้นต์ แล้วพัฒนามาเป็น G House ที่เน้นจุดขายในรูปแบบบัดเจต แอนด์ กอล์ฟ โฮเต็ล ซึ่งผลตอบรับกลับมาพบว่าไปได้ดีมาก

มาถึงวันนี้ กับการก้าวเข้าสู่การเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ใหญ่ที่สุดของเครือจี้อันตึ๊ง นั่นคือ โครงการ G HUAHIN โปรเจ็กต์สถานที่พักแห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Boutique City Resort & Malls ซึ่งเริ่มด้วยมือ และมันสมองของญาติพี่น้อง จนรังสรรค์โครงการสุดหรูแห่งนี้เกิดขึ้นได้

ธนพร โฆษิตชัยวัฒน์ Managing Director GHUAHIN
 

ทีมข่าววอยซ์ทีวีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ "คุณยุ้ย – ธนพร โฆษิตชัยวัฒน์" สะใภ้คนเก่งที่เข้ามากุมบังเหียนในตำแหน่ง Managing Director เพื่อเดินหน้าโครงการ พร้อมจะเปิดตัวในราวเดือนตุลาคมนี้

"จะว่าไปแล้ว G House เป็นเหมือนโรงเรียนแห่งแรกที่สอนประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจบริการ แม้ว่าเราจะมีประสบการณ์จากการทำธุรกิจดิสเคาท์สโตร์ แต่รูปแบบการขายสินค้า ความพอใจหรือไม่พอใจมันอยู่ที่ตัวสินค้า แต่เรื่องบริการมันมีความพึงพอใจหลายรูปแบบ เป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้การบริหารความพึงพอใจเหล่านี้เป็นอย่างมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเราที่เดินเข้าสู่ธุรกิจบริการอย่างเต็มตัว"

คุณยุ้ย กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า โครงการที่กำลังเดินหน้านี้ เป็นการทำงานภายใต้ระบบกงสี หรือธุรกิจในครอบครัว ที่ทุกคนร่วมมือกันรับผิดชอบงานที่หลากหลาย ไม่แตกต่างจากการบริหารโรงแรมดังจากเชนระดับโลก ซึ่งเหมือนเป็นแม่แบบในการทำงานให้กับทีมงานทุกคนที่นี่

"หากจะมองธุรกิจกงสี ยุ้ยมองว่า เป็นความภาคภูมิใจที่เราสามารถทำงานกันในระบบพี่น้อง ที่ได้ช่วยกันพัฒนาธุรกิจของเราขึ้นมาให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าการจะได้อะไรมาซักอย่างล้วนไม่ง่าย แต่หากการทำงานงานของครอบครัวประสบความสำเร็จ มันมีสิ่งที่แตกต่างจากการใช้ระบบมืออาชีพเข้ามาบริหาร ที่อาจมองแต่ตัวเลขผลประกอบการและมุ่งทำเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ความภูมิใจของกงสี นั่นคือ การได้สร้างขึ้นมา แล้วได้ส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเหมือนเป็นการเสียสละจากคนรุ่นหนึ่ง สู่คนรุ่นหนึ่ง ซึ่งสร้างความภูมิใจเป็นอย่างมากกว่าการได้แต่กำไรเพียงอย่างเดียว และบางครั้งความภูมิใจแบบนี้ ใช่ว่าจะมีเงินอย่างเดียวแล้วจะซื้อหามาได้ ต้องสร้างเอง ส่งและรับมอบต่อกันมาถึงจะเกิด"

สำหรับโครงการ G HUAHIN Resort & Mall เดินหน้าภายใต้งบลงทุนกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมที่ดิน 5 ไร่ ริมถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นที่เดิมของครอบครัว ทั้งนี้ จุดสำคัญที่ได้ความร่วมมือจากคนในครอบครัว คือ สามีของคุณธนพร เป็นวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างเอง ส่วนน้องชาย ก็เป็นสถาปนิก ที่เคยมีประสบการณ์กับการทำงานให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศ บวกกับการได้คำปรึกษาที่ดีจาก คุณชูชาติ (พ่อสามี) ที่วางวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเอาไว้ให้ อีกทั้งการได้ญาติพี่น้องที่เข้ามาช่วยดูแลงานฝ่ายต่างๆ ทำให้ระบบกงสีของจี้อันตึ๊ง สามารถผลักดันโครงการสำคัญๆขึ้นมาได้

คุณยุ้ย เผยอีกว่า G HUAHIN เป็นซิตี้รีสอร์ทรูปแบบใหม่ ที่เป็นรีสอร์ทกลางเมือง จุดแตกต่างคือ เรามีการแบ่งโซนให้กับลูกค้าที่ต้องการพักผ่อน และลูกค้าที่วอล์คอินเข้ามาใช้บริการ ทั้งมาสัมมนา หรือมาจัดงานสังสรรค์ แยกส่วนกับลูกค้าที่ต้องการความสงบและต้องการพักผ่อนอย่างชัดเจน อีกทั้งทำเลที่ตั้งของโครงการ จะใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดในหัวหิน และโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ รวมทั้งห่างจากริมทะเล ชายหาดสาธารณะเพียง 150 เมตร ซึ่งสามารถก้าวเดินไปได้ไม่ไกลจากที่พัก และยังมองเห็นวิวมุมกว้างจากห้องสัมมนาที่สามารถเปิดให้โปร่งโล่งได้ เพื่อบรรยากาศที่ผ่อนคลายระหว่างการประชุมสัมมนาได้อีกด้วย

บรรยากาศในห้องพัก Deluxe Room 40 ตร.ม.
 

สำหรับการเปิดตัวโครงการนั้น คุณยุ้ย บอกว่า ด้วยจำนวนห้องพัก 79 ห้องพัก เริ่มต้นด้วยดีลักซ์รูม ขนาด 40 ตร.ม. เตียงนอนซูเปอร์คิงส์ไซส์ขนาด 7 ฟุตทุกห้อง และพิเศษด้วยจากุชซี่ส่วนตัว สำหรับห้องพักพิเศษ จึงมั่นใจว่าพร้อมที่จะรองรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายในระดับราคาเทียบเท่ากับโรงแรมหรูชั้นนำ อีกทั้ง ยังเชื่อมั่นว่า ด้วยธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการกันเพิ่มมากขึ้นตามมา

"เชื่อว่าในปีนี้หัวหินน่าจะกลับมาบาลานซ์แล้วนะคะ หลังจากปีที่แล้ว ส่วนใหญ่มองว่าจะเกิดโอเวอร์ซัพพลาย ด้วยห้องพักต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้น เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆเปิดตัวตามมาหลายแห่ง และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นช่วยให้อัตราการครองห้องพักเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวในหัวหิน"

อย่างไรก็ตาม กับประเด็นยอดนิยมที่ต้องมีการสะท้อนมุมมองความคิดของนักลงทุนออกมาต่อกรณี การเปิดเขตประชาคมอาเซียน ว่าจะสร้างผลกระทบอย่างไรตามมา กรณีนี้ คุณยุ้ย มองว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นย่อมมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ประการแรก เราอาจได้เห็นการไหลเวียนของกลุ่มแรงงาน อาทิ ธุรกิจบริการและท่องเที่ยว อาจได้เห็นว่ามีแรงงานจากฟิลิปปินส์ ที่เก่งเรื่องภาษาเข้ามาเป็นบุคลากรด้านนี้มากขึ้น รวมทั้งการเดินทางเข้าออกซึ่งจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามมาด้วย

ประการต่อมา การพัฒนาบุคลากรของเราเอง ซึ่งจะต้องกระตุ้นให้พนักงานของเราพัฒนาทักษะด้านภาษาเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้สามารถรองรับและพัฒนาได้ทันกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนประการสุดท้าย อยากฝากถึงรัฐบาลที่จะต้องเร่งกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการ boot up เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน

ในช่วงท้าย คุณยุ้ย แย้มนิดๆว่า การดำเนินธุรกิจท้องถิ่น ก็ต้องมีโมเดลจากธุรกิจใหญ่ระดับชาติอยู่ในใจ ซึ่งเธอก็บอกว่า ได้มองเพื่อเป็นครู และเอามาประยุกต์ใช้ในธุรกิจท้องถิ่น แต่อย่างหนึ่งคือ จะไม่มองว่าธุรกิจเดียวกันในท้องถิ่นเป็นคู่แข่ง เพราะหลายครั้ง หลายคราว ก็ได้คนในธุรกิจเดียวกันนี่แหละ ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป

ตามทำนองว่า มีมิตร ย่อมดีกว่า มีศัตรู