มาดูกันว่า เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ 'สิงโตน้ำเงินคราม' เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17

1. จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

ต้นฤดูกาลเชลซีออกสตาร์ทด้วยระบบ 4-1-4-1 แม้จะเก็บชนะเหนือคู่แข่งได้แต่ก็เล่นเอาแฟนบอลต้องลุ้นจนเหนื่อยกว่าจะผ่านไปได้แต่ละนัด จนมาถึงเดือนกันยายนฟอร์มของพวกเขาเริ่มดร็อปลง เริ่มด้วยการบุกไปเก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนนจากลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม และต่อด้วยการแพ้คาบ้านต่อ "ลิเวอร์พูล" 1-2 จนทำให้สื่อถึงกับเล่นข่าว เชลซีเตรียมปลดอดีตกุนซือยูเวนตุสพ้นตำแหน่งทั้งที่เพิ่มคุมทีมได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น  และเกมที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเชลซีในฤดูกาลนี้ก็คือการพ่ายแพ้ต่อคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่าง "อาร์เซนอล" แบบหมดรูป ซึ่งหากจำกันได้เชลซี โดนไอ้ปืนใหญ่นำห่าง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ซึ่งเป็นสกอร์ที่ช็อคแฟนบอลพอสมควร นั่นทำให้ "คอนเต้" เริ่มอยู่เฉยไม่ได้ เขาจัดการเปลี่ยนระบบการเล่นมาใช้แผน 3-4-3 ทันที ในครึ่งหลังซึ่งดูเหมือนว่านี่คือแผนการเล่นที่ลงตัวที่สุดสำหรับเชลซี เมื่อรูปเกมของพวกเขาดูดีขึ้นทันทีในครึ่งหลัง ถึงแม้ว่าเกมในวันนั้นจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบยับเยินและยิงประตูคืนไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว แต่มันก็ทำให้เชลซีได้เห็นจุดอ่อนของพวกเขาที่เรื้อรังมาตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 และแก้ไขมันได้ทันเวลาพอดี

2. ระบบ 3-4-3 ปลุกเชลซีให้ตื่นอีกครั้ง

หลังจากเกมกับอาร์เซนอล คอนเต้ เปลี่ยนมาใช้ระบบการเล่น 3-4-3 ระบบเดียวกับตอนที่คอนเต้นั้นใช้คุม ยูเวนตุส รวมไปถึง ทีมชาติอิตาลี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยคอนเต้ได้นำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพขุมกำลังของทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นริมเส้นฝีเท้าจัดจ้านหลายคนด้วยการรักษาจุดเด่นในเกมรุกของทีมเอาไว้ ซึ่งความยืดหยุ่นของแผนการเล่นดังกล่าวส่งผลให้ให้ฟอร์มการเล่นของนักเตะเชลซีกลับมาสุดยอดอีกครั้ง ทั้งเกมรุกที่ดุดันและเกมรับที่เหนียวแน่นนี้เองทำให้เชลซีเดินหน้าเก็บชัยชนะเป็นสถิติของสโมสรถึง 13 เกมติด ก่อนจะถูกสเปอร์ หยุดฟอร์มอันร้องแรงของพวกเขาด้วยระบบการเล่นในรูปแบบเดียวกันนี่เอง จากฟอร์มที่สุดยอดของเชลซีทำให้แผนการเล่น 3-4-3 กลายเป็นที่นิยมของบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้อีกด้วย

3. ความลงตัวของนักเตะภายในทีม

ในฤดูกาลนี้เชลซีมีเกมรุกที่สุดยอดด้วยการเป็นทีมที่ยิงประตูได้เยอะที่สุดเป็นอันดับที่ 1 และยังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของลีก เป็นรองเพียงสเปอร์เพียงทีมเดียวเท่านั้น เกมรับที่มี ดาวิด ลุยซ์ และ แกรี เคฮิลล์ ที่เคยเป็นบ่อน้ำมันในการเล่นคู่กันในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กลายเป็นกองหลังสุดแข็งแกร่งและเล่นผิดพลาดน้อยมาก การได้อัซปิลิกวยต้ามาร่วมประสานงานทำให้เกมรับของเชลซีแข็งแกร่งอย่างที่เห็น ขณะที่แดนกลางนั้น เนมันยา มาติช กับ เอ็นโกโล ก็องเต้ ทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งคู่ประสานงานกันได้อย่างลงตัวจนเกมของทีมแน่นขึ้นอย่างชัดเจน พวกเขาไม่เพียงแค่คอยเล่นเกมรับตัดเกมตรงกลางสนามเท่านั้น แต่ยังคอยหาโอกาสเติมเกมรุกเมื่อคู่แข่งเปิดช่องว่างด้วย นอกจากนี้เกมรุกที่มีอาซาร์ , เปโดรและวิลเลี่ยน สลับกันทำเกม และยังมีวิงแบ็คทั้งสองฝั่งคอยสนับสนุน ทำให้คอสต้าทำประตูให้ทีมได้เป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง ความลงตัวของนักเตะภายในทีมนี่เองที่ช่วยให้เชลซีไร้เทียมทาน

4. มันสมองของคอนเต้

เพียงแค่ปีแรก คอนเต้ ก็ประสบความสำเร็จในการคุมทีมในพรีเมียร์ลีก ที่ถือว่าเป็นปีที่มีการแข่งขันกันสูงมาก อย่างที่ทราบกันดี พรีเมียร์ลีกปีนี้เป็นการรวมโค้ชยอดฝีมือมาไว้ด้วยกัน และเป็น คอนเต้ นี่เองที่ทำได้ดีที่สุดเหนือบรรดากุนซือรายอื่นๆ ด้วยการพาเชลซีเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ แถมยังได้ลุ้นดับเบิลแชมป์ด้วยการเข้าชิงชนะเลิศ FA Cup กับอาร์เซนอลอีกด้วย  เขาใช้สายตาอันเฉียบแหลมในการใช้งานลูกทีม และ หาจุดลงตัวของลูกทีมได้อย่างรวดเร็ว คอนเต้ เริ่มต้นการทำงาน สแตมฟอร์ด บริดจ์ด้วยการดึง เอ็นโกโล  ก็องเต้ และ มาร์กอส อลอนโซ่ มาเสริมทัพ และยังดึง วิคเตอร์ โมเซส กลับมาจากการยืมตัวอีกด้วย ซึ่งนักเตะเหล่านี้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของเชลซีในเวลาต่อมา โดยเฉพาะ ก็องเต้ ที่ปล่อยของจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลมาครองได้สำเร็จ คอนเต้ปรับจูนผู้เล่นภายในทีมจนได้ทีมที่ลงตัวแบบสุดๆ และนักเตะภายในทีมก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคนที่สมควรได้รับเครดิตมากที่สุดนั่นก็คือ คอนเต้ นั่นเอง

5.ไม่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ-ไม่มีโปรแกรมบอลยุโรป

อันโตนิโอ คอนเต้ ยอมรับด้วยตัวเองว่า เชลซีค่อนข้างได้เปรียบคู่แข่งแย่งแชมป์ทีมอื่นๆตรงที่พวกเขาไม่มีนักเตะที่บาดเจ็บจนต้องพักเป็นเวลานานๆ เลยสักคนเดียวตลอดทั้งฤดูกาลนี้  ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เชลซีไม่มีปัญหาในการจัดตัวลงเล่นในแต่ละนัด แตกต่างจากทีมหัวตารางทีมอื่นๆ ที่ค่อนข้างจะมีปัญหาในเรื่องนี้ ส่งผลให้ทีมเหล่านั้นเป็นรองในการเบียดแย่งแชมป์กับสิงห์บลู นอกจากนี้การที่ไม่มีโปรแกรมการเตะฟุตบอลยุโรปนั้นคือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขานั้นเองก็ได้เปรียบเช่นกัน เพราะไม่จำเป็นต้องโรเตชั่นนักเตะเยอะ และยังสามารถส่งนักเตะที่เป็นตัวหลักของทีมลงสนามอย่างต่อเนื่องในทุกๆ เกม