เมื่อหลายปีก่อนคำว่า Fintech หรือ เทคโนโลยีทางการเงิน ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็มีนวัตกรรมทางการเงินที่รวมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มายกระดับบริการทางการเงิน หนึ่งในนั้นคือ "ตู้บุญเติม" ตู้เติมเงินที่ติดตั้งแล้วกว่า103,000 ตู้ ทั่วประเทศ 
 

ตู้เติมเงินออนไลน์สีส้มชื่อ "บุญเติม" ที่พบเห็นได้ตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ใต้หอพัก-อพาร์ทเม้นท์ หรือ ย่านชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ วันนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงบริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือที่เติมได้ตั้งแต่ 10 บาทเท่านั้น

แต่เจ้าตู้สีส้มนี้คือศูนย์รวมบริการทางการเงินสุดสะดวกรวมกว่า 50 รายการ ทั้งเติมเงินเกมส์ออนไลน์ โอนเงิน ซื้อแพคเกจอินเตอร์เน็ต ดูดวง ซื้อประกันภัย  เติมเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-wallet จ่ายค่าสินค้า และชำระบิลต่างๆ เช่น บิลค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รวมถึง ค่าปรับจราจร และบางตู้ที่ตั้งบางจุดยังมีบริการชั่งน้ำหนักที่สามารถคำนวนดัชนีมวลกาย (BMI) โดยเก็บประวัติของลูกค้า และแสดงผลย้อนหลังทุกครั้งที่มาชั่งน้ำหนัก

การใช้งานที่ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านหน้าจอขนาด 10 นิ้ว พร้อมเสียงอธิบายที่เลือกได้ 4 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ พม่า และกัมพูชา

วันนี้ “บุญเติม” มียอดเติมเงินรวม 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 63 นับเป็นรายได้หลักของบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด มหาชน หรือ “FSMART” ซึ่งเพียงไตรมาสแรกของปีนี้มีรายได้รวม 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  และมีกำไรสุทธิ 132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 มีจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 24 ล้านเลขหมาย และยอดทำรายการกว่า 2,200,000 รายการต่อวัน

8 ปีของ “ตู้บุญเติม” ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ FSMART มีเป้าหมายขยายติดตั้งตู้บุญเติมให้ได้ 122,000 ตู้ มียอดเติมเงิน 32,000 ล้านบาท และเตรียมงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อการขยายกิจการ ขยายตู้ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่น รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารอื่นๆ เพื่อเพิ่มช่องทางให้บริการโอนเงิน จากปัจจุบันมี 2 ธนาคารที่ให้บริการ

พร้อมกับแผนขยายกลุ่มลูกค้าด้วยแอปพลิเคชั่น BeWallet เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ลดความเสี่ยงของธุรกิจที่มีรายได้จากการบริการเติมเงินสัดส่วนมากถึงร้อยละ 88 ที่สำคัญระบบ BeWallet จะเชื่อมต่อกับบัญชีตู้เติมเงินบุญเติม ทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวกขึ้น