จังหวัดเชียงใหม่ ยอดขายรถยนต์มือสองหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ผลกระทบจากโครงการรถคันแรก
คุณประไพพิมพ์ ศรีสว่าง ผู้สื่อข่าววีรีพอร์ตจากจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่ายอดขายรถยนต์มือสองหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกภาระค่าเช่า และดอกเบี้ยจากเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เต็นท์รถยนต์มือสองเลิกกิจการ
หลังจากที่รัฐบาลเปิดโครงการรถยนต์คันแรก ลดภาษีให้ 1 แสนบาท และยังมีการขยายโครงการให้เปิดจองรถได้ถึงวันที่ 31 เดือนธันวาคม 2555 และขยายเวลารับมอบรถออกไป ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองที่จังหวัดเชียงใหม่ทันที แม้ว่าช่วงของต้นโครงการจะได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เลื่อนเวลาส่งมอบรถออกไปอีกหลายเดือน ทำให้ช่วงนี้ยังพอจะมีลูกค้าที่ต้องการซื้อขายรถหันมาใช้บริการเต็นท์รถยนต์มือสองบ้าง
แต่ก็ลดจากช่วงปกติไปกว่าร้อยละ 50 จากแต่ละเดือนที่เคยจำหน่ายรถยนต์มือสองได้เฉลี่ยเต็นท์ละ 10 กว่าคันต่อเดือน แต่ล่าสุดพบว่ายอดขายลดหายไปกว่าร้อยละ 90 มานานกว่า 3 เดือนแล้ว
โดยที่ศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสอง ที่โครงการศรีอนันต์ ตลาดรถยนต์ บริเวณถนนเชียงใหม่-แม่โจ้ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายรถยนต์มือสองแหล่งใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งมีผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์มือสองเกือบ 20 ราย พบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีลูกค้ามาเลือกซื้อรถ หรือมาสอบถามราคารถอย่างเช่นก่อนหน้าที่จะมีโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล รถยนต์ทั้งสภาพที่ใหม่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และรถยนต์มือสองถูกจอดเรียงรายมีเพียงเจ้าของร้าน ที่นั่งเฝ้าอยู่เท่านั้น
คุณขนิษฐา คำสด เจ้าของเต็นท์ สุชาติ สมาร์ท คาร์ เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วงนี้หายไปกว่าร้อยละ 90 บางเดือนหายไปถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม
ประชาชนหันไปเลือกซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงกันตามโครงการจนทำให้บรรยากาศเงียบเหงาอย่างที่เห็น แม้ว่าทางร้านจากปกติแต่ละเดือนขายได้กว่า 10 คัน แต่มาระยะนี้ขายได้เพียงเดือนละ 1-2 คันหรือบางเดือนไม่มีลูกค้าซื้อขายรถยนต์เลย
แม้ว่าเต็นท์รถส่วนใหญ่ตอนนี้จะใช้วิธีดึงลูกค้า ทั้งลดเงินดาวเป็นศูนย์ หรือเรียกว่าฟรีดาวน์ จัดเต็ม ลดค่าโอน ลดค่าจัด ฟรีประกันชั้น 1 แต่ก็ไม่สามารถดึงลูกค้าเพิ่มขึ้นได้
โดยแต่ละเดือนต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 แสนบาท ทั้งเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ รวมไปถึงภาระค่าดอกเบี้ยที่ต้องพึ่งเงินทุนจากบริษัทสินเชื่อรถยนต์ต่างๆ
ทั้งนี้ผู้ประกอบการหลายราย คาดว่า จะได้รับผลกระทบยาวไปจนถึงปีหน้า จนกว่าโครงการรถคันแรกของรัฐบาลจะหมดโครงการ และผู้ผผลิตจะสามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้หมด แต่กว่าจะถึงเวลานั้นก็เชื่อว่า จะมีเต็นท์รถยนต์มือสองเลิกกิจการไปจำนวนมากเนื่องจากแบกภาระไว้ไม่ได้
