ไม่พบผลการค้นหา
'นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด' นำทีม 12 นักมวยไทยเหินฟ้าลุยศึกชิงแชมป์โลก ศึก 'อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ' ที่เบลารุส ด้านเฮดโค้ชทีมชาติ มักน้อยหวังแค่ 5 เหรียญทอง เนื่องจากหลายชาติกำลังพัฒนาดีมากขึ้น

'นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด' นำทีม 12 นักมวยไทยเหินฟ้าลุยศึกชิงแชมป์โลก ศึก 'อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ' ที่เบลารุส ด้านเฮดโค้ชทีมชาติ มักน้อยหวังแค่ 5 เหรียญทอง เนื่องจากหลายชาติกำลังพัฒนาดีมากขึ้น

ช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ค.60) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ผศ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และทีมงาน พานักมวยไทย 12 คน (ชาย 9 คน หญิง 3 คน) นำทัพโดย "นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด" อานนท์ พลกระโทก อดีตแชมป์เก่ารายการนี้ 3 สมัยรุ่น 51 กก. ลุยศึกมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2017 รายการ "อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ" ที่ประเทศเบลารุส 
 
ก่อนเดินทาง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาชุดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างชุดเก่าและชุดใหม่ ซึ่งทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ยิ่งการแข่งขันรายการนี้เป็นแมทช์ใหญ่ระดับโลก แน่นอนว่า นักมวยไทยจากทั่วโลกทั้งทวีปยุโรปและอีกหลายชาติในเอเชียเองจะส่งนักกีฬาที่ดีที่สุดมาล่าเหรียญรางวัลกันเต็มที่ โดยเฉพาะชาติสำคัญอย่าง รัสเซีย,คาซัคสถาน,อุซเบกิสถานและเบลารุส เจ้าภาพ นอกจากนี้ เนื่องจากประสบการณ์เมื่อปีที่แล้ว ที่ประเทศสวีเดน ตนได้ตั้งความหวังเอาไว้ถึง 9 เหรียญทอง แต่ท้ายที่สุดแล้วนักชกไทยสามารถทำมาได้แค่ 6 เหรียญทองกับ 3 เหรียญเงินเท่านั้น ถือว่า ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า แต่ละชาติมีการพัฒนาดีขึ้นมาก ในมุมกลับกันใช่ว่า เราเป็นต้นตำรับกีฬาชนิดนี้แล้วจะแพ้เขาไม่ได้ 

ส่วนเป้าหมายในปีนี้ ตั้งไว้ที่ 5 เหรียญทอง เนื่องจากมีเวลาเก็บตัวแค่ 1 เดือน จากกำหนดเดิม 2 เดือน แต่เนื่องจากนักชกส่วนใหญ่ต้องรับใช้ต้นสังกัดของเขาเอง ในศึกมวยไทยชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปี 2560 โดยความหวังสำคัญอยู่ที่ รุ่นไลท์ฟลายเวท 48 กก. "วิทยาเล็ก เพชรสี่หมื่น" ทิวากร ชอบทำกิจ , รุ่นฟลายเวท 51 กก. "นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด" อานนท์ พลกระโทก , รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. "แสน ปิ่นสินชัย" วิวัฒน์ คำทา, รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 63.5 กก. "หยกวิทยา เพชรสี่หมื่น" ฤทัยพันธ์ ทรัพย์มะณี และ รุ่นไลท์มิดเดิลเวท 71 กก. "ซูปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" ศุภชัย หมื่นสังข์

ขณะที่นักมวยไทยหญิงของเราทั้ง รุ่นไลท์ฟลายเวท 48 กก. "โลมา ลูกบุญมี" สุภิสรา คนหลัก , รุ่นฟลายเวท 51 กก. "น้องแป้ง สส.ปกรณ์" อภัสรา โกศล และ รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. "สาวสิงห์ ม.รัตนบัณฑิต" รัชฎาพร วิหารธรรมเม คงจะใช้ความสามารถที่มีอยู่คว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาได้ แต่ถ้าทะลุไปถึงรอบชิงฯและคว้าเหรียญทองมาจะเกินเป้าหมายที่วางไว้ ก็ถือว่า เป็นโบนัสของทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทั้งหมดที่ได้ช่วยกันทุ่มเทและตั้งใจทำงานหนักมาตลอด ส่วนในเรื่องของน้ำหนักตัวนักชกแต่ละคนนั้น เวลานี้ตัวเองให้ขึ้นลงได้คนละไม่เกิน 1-2 กก. เพราะยิ่งเจออากาศหนาวอาจมีปัญหาก็เป็นได้ 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog