ไม่พบผลการค้นหา
วันนี้ครบรอบ 101 ปี การสถาปนากองลูกเสือมณฑลปัตตานี โดยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใส่หมวกกลม หรือ ‘ซองเกอะฮ์’ แบบมลายู แทนหมวกปีกของลูกเสือสยาม เพราะอะไร? และ ลูกเสือกองนี้หายไปไหน?

4 ปีภายหลังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา ‘ลูกเสือแห่งชาติ’ ขึ้นในแผ่นดินสยาม กองลูกเสือจากดินแดนสุดปลายด้ามขวานได้รับพระบรมราชานุญาตให้แต่งกายในชุดลูกเสือพิเศษ สวมหมวกทรงกลมตามธรรมเนียมมุสลิมมลายู เพราะอะไร? และ ลูกเสือกองนี้หายไปไหน?


ลูกเสือปัตตานี เกิดขึ้นอย่างไร

หากย้อนกลับไปในรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคแห่งการช่วงชิงอาณานิคมของชาติตะวันตกในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อังกฤษได้เข้ามาขนาบฝั่งมาเลเซียและเมียนมา หรือ ‘พม่า’ ในขณะนั้น ส่วนฝั่งตะวันออกของสยาม คือลาวและกัมพูชา ก็ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเช่นกัน 

นายศุกรีย์ สะเร็ม นักประวัติศาสตร์มุสลิมในสยาม และรองผู้ตรวจการลูกเสือแห่งชาติ ระบุว่า เวลานั้นเอง สยามถูกจำกัดสิทธิที่จะเอาทหารไปประจำการในจังหวัดตั้งแต่เพชรบุรีลงไปเนื่องจากสนธิสัญญาเรื่องการมีกองทหารในแหลมมลายู ทำให้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชประสงค์แต่งตั้งขบวนการเยาวชนและขบวนการชาวบ้านขึ้นมาทำหน้าที่ดังกล่าวแทน จึงเป็นที่มาของกองเสือป่า ซึ่งเป็นกองอาสาสมัครทำหน้าที่ฝึกคน คอยช่วยเหลือดูแลความสงบเรียบร้อย 

“ในส่วนของงานเยาวชน ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ก็ได้ตั้งลูกเสือ หรือ Boy Scouts เป็นหน่วยสอดแนมรุ่นเล็ก ซึ่งมีชื่อประจวบเหมาะกับคำไทยของ Scout ที่แปลว่าเสือป่า Boy Scout หรือเสือป่ารุ่นเล็กจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ลูกเสือ’ และใช้สัญลักษณ์รูปหน้าเสือดุขนาดเล็ก” นายศุกรีย์ กล่าว

(ภาพ : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ขณะนั้นมีพระชนมายุ 3 พรรษา ฉลองพระองค์ในชุดลูกเสือปัตตานี ในช่วงงานลูกเสือแห่งชาติครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่วังสราญรมย์ เอกสารจดหมายเหตุระบุว่าช่วงเวลานั้นเด็ก ๆ ในพระนครต่างแต่งกายด้วยชุดลูกเสือแทบทั้งหมด ถ่ายเมื่อปี 2473)

เมื่อล้นเกล้าฯ ร.6 ทรงมีพระราชประสงค์ให้มีขบวนการประชาชนและขบวนการอาสาสมัครเด็กเกิดขึ้นทั่วประเทศ แต่ปรากฎว่าในมณฑลปัตตานี อันประกอบไปด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา สายบุรี ระแงะ (นราธิวาส) กลับมีผู้สนใจสมัครเป็นลูกเสือน้อยมาก พระองค์ทรงแปลกประทัย จึงทรงให้ข้าราชการผู้ใหญ่ไปสืบหาสาเหตุ และได้รับข้อมูลจากนักการศาสนาในปัตตานีว่า การใส่หมวกปีกแบบลูกเสือสยาม มีลักษณะคล้ายกับหมวกปีกต่ำของพระแรบไบ (Rabbi) ในศาสนายิว

พระองค์จึงทรงมีพระราชวินิจฉัยว่าการใส่หมวกปีกสีดำ ทำให้มุสลิมส่วนใหญ่ไม่สบายใจที่จะสมัครเป็นลูกเสือ จึงได้มีพระบรมราชโองการเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2459 ซึ่งเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ว่า 

“ลูกเสือมณฑลปัตตานีนั้นโดยมากเป็นบุตรหลานชาวมลายูซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม แต่ที่จะให้ใช้หมวกสักหราดดำใบพับ อย่างลูกเสือกองเสนารักษาดินแดนนั้น ทรงพระราชดำริเห็นว่าน่าจะไม่เหมาะแก่ลัทธินิยม” 

ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กองลูกเสือมณฑลปัตตานีใช้หมวกสักหลาดหรือกำมะหยี่สีดำชนิดกลมแบบหมวกมลายู มีขนาดขอบหมวกสูงไม่เกิน 10 ซม. ติดสายรัดคางหนังดำ และติดเครื่องหมายตราหน้าเสือที่กึ่งกลางขอบข้างหน้าหมวกเป็นสำคัญ หลังจากนั้นหนึ่งปี พระองค์ก็ประกาศให้กองเสือป่าปัตตานีซึ่งเคยใช้หมวกปีก ใส่หมวกทรงกลมแบบเดียวกันได้

‘ลูกเสือมุสลิมกองแรกของโลก’

นายศุกรีย์ กล่าวว่า กองลูกเสือมณฑลปัตตานีเป็นกองลูกเสือแรกที่มีการระบุว่าเป็นกองลูกเสือมุสลิม เนื่องจากในช่วงเวลานั้นประเทศโลกมุสลิมมีความอ่อนแอ โดยส่วนใหญ่ตกเป็นเมืองขึ้นของโลกตะวันตก และไม่ได้มีการสถาปนาลูกเสือด้วยตนเอง 

แต่กองลูกเสือปัตตานี มีการระบุว่าก็เป็นลูกมุสลิม เป็นมลายู เพราะฉะนั้นระบุชัดเจนว่าทำไปเพราะเป็นศาสนาอิสลาม เคารพในอัตลักษณ์และยอมรับในความเชื่อความศรัทธา แต่นายศุกรีย์ กล่าวว่า แม้จะมีการแต่งตั้งเป็นกองลูกเสือพิเศษ แต่ภารกิจของกองลูกเสือมณฑลปัตตานีนั้นเหมือนกองลูกเสืออื่น ๆ คือฝึกคนให้เป็นคนดี มีวินัย ช่วยกันดูแลประเทศชาติบ้านเมือง

แล้วกองลูกเสือมลายู หายไปไหน

สำหรับเหตุผลที่กองลูกเสือมลายูหายไป ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์มุสลิมให้ความเห็นว่า อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เนื่องจากลูกเสือมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะได้รับการสถาปนาขึ้นโดยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 

ภายหลังที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 7 ก็มีการจัดโครงสร้างใหม่ และเปลี่ยนเครื่องแบบลูกเสือไทย จากเครื่องแบบลูกเสือไทยซึ่งมีการดีไซน์อย่างสวยงามมีความเป็นเอเชียแบบหมวกปีก เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการใส่หมวกหนีบสีกากีอยู่ระยะหนึ่ง และก็เปลี่ยนมาเป็นหมวกเบเรต์สีแดง สีเขียวที่เห็นในปัจจุบัน และต่อมาก็ไม่มีหลักฐานการแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายประกอบลูกเสือปัตตานีอีก

ตัวอย่างการปกครอง โดยคำนึงถึงอัตลักษณ์มลายู

นายศุกรีย์ กล่าวด้วยว่า การโปรดเกล้าฯ ให้กองลูกเสือในมณฑลปัตตานีของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 มีการปรับเปลี่ยนเครื่องประกอบชุดลูกเสือนี้ เป็นตัวอย่างของการคำนึงถึงความแตกต่างทางอัตลักษณ์และวัฒนธรรม เช่นเดียวกับหลักการปกครองที่ล้นเกล้าฯ ร.6 ทรงมีพระราชดำรัสแก่เสนาบดีที่ไปปกครองหัวเมืองชายแดนใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยเป็นหลักปกครอง 6 ประการ เช่น ห้ามนำสุกรและสุนัขนำเข้าไปในเขตของชาวบ้าน เวลาจะไปมัสยิดให้ถอดรองเท้า เป็นต้น  

“สิ่งที่ ร.6 ทรงทำไว้เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ปรากฎว่าเป็นหลักการที่ดีมาก ถ้ากระทรวงมหาดไทยหยิบมาใช้กับปัญหา หรือการเข้าไปทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เรื่องมันก็ง่ายขึ้น” นายศุกรีย์ กล่าว

(ภาพ : กองลูกเสือหลวง (รักษาพระองค์) หมวกติดขนนกสีขาว มี 3 กอง ได้แก่ 1. รร.วชิราวุธ 2. รร.ราชวิทยาลัย 3. รร.พระปฐมวิทยาลัย ที่หน้าท้องพระโรง วังวรดิศ)

(ภาพ : กองลูกเสือพิเศษกองที่ 4 คือ กองลูกเสือมลายูมุสลิมมณฑลปัตตานี)

ขอบคุณภาพประกอบจาก ศุกรีย์ สะเร็ม

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog