ปิดฉากคดีฆาตกรรมที่ยาวนานกว่า 17 ปี เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ จำคุก 7 ปี หม่อมลูกปลา ฐานวางยาฆ่าหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล หรือ ท่านกบ แห่งวังอัศวิน
ปิดฉากคดีฆาตกรรมที่ยาวนานกว่า 17 ปี เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ จำคุก 7 ปี หม่อมลูกปลา ฐานวางยาฆ่าหม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล หรือ ท่านกบ แห่งวังอัศวิน แต่ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนจึงลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี 8 เดือน
นายทวีชัย น้อยประเสริฐ อายุ 39 ปี สามีคนล่าสุดของนางโชติกา ขวัญฐิติ หรือหม่อมลูกปลา พร้อมด้วยบุตรชายคนเล็กของเธอถึงกับร่ำไห้ เมื่อหม่อมลูกปลาตัวถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่ฑัณสถานหญิง หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 4ปี 8 เดือน ในความผิดฆ่าผู้อื่น ซึ่งนายทวีชัยกล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่าจะต้องรับภาระเลี้ยงลูกชายของหม่อมลูกปลา 2 คนและลูกติดตัวเอง 1 คน เพียงลำพังระหว่างที่ภรรยาถูกจองจำ
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง หม่อมลูกปลาพร้อมลูกชาย เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาของศาล ในคดีที่ อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น จากกรณีกรณีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2538 ได้ผสมยาพิษในถ้วยสุธารสกาแฟให้หม่อมเจ้าฐิติพันธ์ ยุคล หรือ ท่านกบ แห่งวังอัศวินดื่มจนสิ้นชีพิตักษัยในเวลาต่อมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับยอมรับว่า ยังคิดถึงชีวิตที่สุขสบายในวังอัศวินบ้าง ในช่วงที่ชีวิตตกระกำลำบาก แต่สุดท้ายเธอต้องยอมรับความจริง
คดีนี้ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดเห็นว่า พยานโจทก์มีทั้งผู้เชี่ยวชาญเครื่องจับเท็จมาเบิกความยืนยันถึงการตั้งคำถามตรวจสอบพบว่า ผลจากเครื่องจับเท็จ ครั้งแรกจำเลยให้การเท็จ แต่ภายหลังก็ให้การรับสารภาพว่าใส่สารกำจัดแมลง ยี่ห้อไบกอน ซึ่งเป็นสารพิษกลุ่มคาร์บอเมท ให้ผู้ตายทรงประชวรเข้าโรงพยาบาลต่อหน้าบุคคลอื่นที่ได้เป็นพยานในการขอยา เพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องถูกทำร้ายเมื่อขอหย่า ซึ่งคำเบิกความของพยานโจทก์ยังสอดคล้องกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นชุดพนักงานสอบสวน นอกจากนี้โจทก์ยังมีพยานที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จำเลยไปกราบขอโทษและยอมรับสารภาพผิด
ศาลเห็นว่าพยานเหล่านี้ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จะให้การปรักปรำจำเลย รวมทั้งวิดีทัศน์ที่จำเลยนำชี้ที่เกิดเหตุวังอัศวินว่าจำเลยไม่เคยถูกบังคับ เป็นการรับสารภาพโดยสมัครใจ จึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใส่สารพิษลงในถ้วยกาแฟ แต่ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าให้ถึงแก่ความตาย จึงพิพากษากลับให้จำคุกฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 290 ประมวลกฎหมายอาญา จำคุก 7 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 ปี 8 เดือน
นับเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม เนื่องจากเป็นคดีครอบครัว และเกี่ยวพันธ์กับราชสกุลดัง หม่อมลูกปลาหรือจำเลยในคดีนี้ มีชีวิตที่พกผันไม่ต่างจากนิยาย เริ่มจากชีวิตเด็กกำพร้า ที่ถูกเก็บมาชุบเลี้ยงในวังอัศวิน และต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นชายาของหม่อมเจ้าฐิติพันธ์ ซึ่งงานแต่งทั้งคู่กลายเป็นข่าวฮือฮาในแวดวงสังคมชั้นสูง และไม่นานเธอตกเป็นผู้ต้องหาวางยาสามีตัวเอง เพียงเพื่อต้องการหนีเที่ยวกับนายอุเทศ ชุปวา พ่อค้าขายเกาลัดย่านสยามสแควร์ ชายคนรักต่างศักดิ์
โดยศาลชั้นต้นพิพากษจำคุก 9 ปี และโทษเหลือจำคุก 6 ปี แต่โชคดีเมื่อนายสุทัศน์ เงินหมื่น กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องประกันตัว ในฐานะส.ส.บ้านเดียวกับนายอุเทศ ทำให้เธอจำคุกเพียง 7 วัน
แต่ไม่นาน หม่อมลูกปลา ต้องหอบลูกชาย 2 ครั้งขึ้นโรงพักอีกครั้ง เมื่อนายอุเทศ ถูกจับในคดีเสพยาเสพติดและเธอยังพบว่าสามีเธอแอบบมีกิ๊ก กระทั่งวันที่ 4 มีนาคม 2548 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ด้วยความช่วยทางคดีจากนายสุทัศน์ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯในเรื่องคดีความ
ด้านนายสุทัศน์ นายประกัน เตรียมที่จะยื่นฎีกาขอพระทานอภัยโทษให้หม่อมลูกปลา ให้ทันช่วงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ แต่หากไม่ทันก็จะยื่นอภัยโทษตามหลักปกติทั่วไปของกรมราชทัณฑ์
