รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ขอผู้ประกอบการรถสาธารณะประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง พร้อมยืนยัน ส่วนรถ 4 ล้อเล็กรับจ้าง หรือ รถกะป๊อ รถตุ๊กตุ๊ก ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยส่วนของที่นั่งคนขับและที่นั่งตอนหน้า แต่ยกเว้นส่วนของผู้โดยสารเพราะไม่เหมาะที่จะติดตั้งเพิ่มเติมได้
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยกับทีมข่าววอยซ์ทีวี ถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกมาตรา 44 แก้ปัญหาความปลอดภัยรถโดยสารและคุมเข้มวินัยจราจรที่จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนนี้ ในกรณีบังคับให้คาดเข็มขัดนิรภัย ว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก โดยพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 กำหนดไว้ว่า รถยนต์นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ทั้งประเภทรถเก๋ง รถแท็กซี่ รถลีมูซีน และรถกระบะ4ประตู ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2531 ถึง 31 มกราคม 2553 กำหนดให้ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย เฉพาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แต่รถที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
ส่วนรถ 4 ล้อเล็กรับจ้าง หรือ รถกะป๊อ รถตุ๊กตุ๊ก ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 และ รถปิคอัพ รถสองแถว ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 บังคับติดตั้งเข็มขัดนิรภัยส่วนของที่นั่งคนขับและที่นั่งตอนหน้า แต่ยกเว้นส่วนของผู้โดยสาร เนื่องจากไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม ขณะที่รถตู้ส่วนบุคคล ที่ผลิตและนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถตู้โดยสารทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ตลอดจนรถโดยสารหมวด 2 และ หมวด 3 ไม่เกิน20ที่นั่ง รถบัสโดยสารที่วิ่งระหว่างกรุงเทพ-ต่างจังหวัดและวิ่งระหว่างจังหวัด ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ทุกคัน ทุกเส้นทาง
ส่วนกรณีรถแท็กซี่ อนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารทั้งคันไม่เกิน 5 คน รวมคนขับ โดยทุกที่นั่งต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน คนขับจะมีความผิดฐานยินยอม ส่วนผู้โดยสารจะมีความผิด ฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับคนละไม่เกิน 500 บาท โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้มีการติดตั้งให้ครบทุกที่นั่ง ซึ่งมาตรการทั้งหมด จะดำเนินการก่อนช่วงเทศสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ
ขณะที่ พลตำรวจโท วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมตำรวจจราจร ตระเวนถือป้ายข้อความรณรงค์ให้กับประชาชน รับทราบระเบียบข้อบังคับของกฎจราจร ภายใต้มาตรา 44 คุมเข้ม โดยกำชับผู้ขับรถยนต์ ไม่ให้บรรทุกคนในกระบะท้าย รวมถึง การสร้างความเข้าใจ-อุปนิสัยในการขับขี่ด้วยความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มกวดขันและบังคับใช้กฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนนี้
นอก จากนี้ จะตั้งด่านตรวจเข้มวินัยจราจร และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง รวมทั้ง ตรวจจับรถยนต์ ที่บรรทุกคน และถังน้ำไว้กระบะท้าย เพื่อเตรียมเล่นสงกรานต์ เนื่องจากปีนี้(60) อนุญาตให้เฉพาะการบรรทุกถังน้ำเท่านั้น
