มหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติอย่างกีฬาโอลิมปิก ได้ปิดฉากลงแล้ว ด้วยชัยชนะของสหรัฐอเมริกาในการเป็นเจ้าเหรียญทอง ที่คว้าไปถึง 46 เหรียญทอง
มหกรรมกีฬาโอลิมปิก หรือ ลอนดอน เกมส์ 2012 ก็ปิดฉากลงแล้วอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งหนึ่งในความสนใจนอกเหนือไปจากพิธีปิดที่สวยงามตระการตานั้น ก็คือ การทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองของสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง ด้วยการคว้าไปถึง 46 เหรียญทอง และเหรียญรวมทั้งสิ้น 104 เหรียญ ซึ่งมากกว่าประเทศจีน ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 17 เหรียญ และครั้งนี้ยังเป็นกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ที่สหรัฐฯ คว้าเหรียญรวมมากที่สุด ถึงแม้ว่าในปักกิ่ง เกมส์ 2008 จะพลาดตำแหน่งเจ้าเหรียญทองให้กับประเทศจีนก็ตาม
และนี่ จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เพราะเหตุใดสหรัฐฯ จึงสามารถรักษาตำแหน่งมหาอำนาจในวงการกีฬาโลกได้นับสิบๆ ปี ซึ่งหลายฝ่ายอาจมองว่า เป็นเพราะสหรัฐฯ มีงบประมาณที่จะจัดสรรให้กับวงการกีฬาค่อนข้างสูง ทำให้การฝึกฝน เทคโนโลยี รวมไปถึงโภชนาการมีมาตรฐานที่สูงตามไปด้วย ทำให้นักกีฬาสามารถไปถึงเป้าหมายได้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากดูที่ชนิดของกีฬาที่สหรัฐฯ ได้เหรียญรางวัลมากที่สุดนั้น ก็จะพบว่า คือกีฬาว่ายน้ำ และกรีฑาทั้งประเภทลู่ และลาน ซึ่งในปีนี้ สหรัฐฯ คว้าเหรียญจากการแข่งขันว่ายน้ำไปถึง 31 เหรียญ และกรีฑา 29 เหรียญ ซึ่งรวมกันแล้ว เกินกว่าครึ่งของเหรียญทั้งหมดที่สหรัฐฯ ได้รับในปีนี้ ส่วนสถิติรวมจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทั้งหมด สหรัฐฯ คว้าเหรียญจากกีฬาว่ายน้ำมาแล้วถึง 520 เหรียญ และจากกรีฑา 767 เหรียญ ซึ่งถือว่ามากจนแทบไม่น่าเชื่อ
สำหรับวงการกีฬาว่ายน้ำของสหรัฐฯ จะพบว่า นักกีฬาดังๆ ระดับซุปเปอร์สตาร์ จะมาจากสโมรสรเอกชนต่างๆ ซึ่งต้องพยายามแข่งขันเพื่อพัฒนาความสามารถ โดยสหรัฐฯ มีวัฒนธรรมในการเพิ่มแรงจูงใจให้กับนักกีฬา ด้วยการจัดโควต้าให้นักกีฬาสามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับโลกในสหรัฐฯ ได้
นอกจากนี้สมาพันธ์ว่ายน้ำสหรัฐอเมริกา ยังเป็นสมาพันธ์ที่ได้ชื่อว่ามีการจัดการที่ดีที่สุด และมีงบประมาณสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย โดยผู้ที่ได้เหรียญทอง จะได้รับเงินรางวัลกว่า 2 ล้าน 3 แสนบาท และถ้าหากทำสถิติโลก จะได้เงินรางวัลเพิ่มอีกกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท และนี่อาจจะเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ มีนักว่ายน้ำหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยฝีมือเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี
ส่วนกีฬากรีฑานั้น ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่มีนักวิ่งลมกรดชาวจาไมกาอย่างอูเซน โบลท์ หรือนักกีฬาขว้างฆ้อนชื่อก้องโลกชาวฮังการีอย่าง คริสเตียน พาร์ แต่สหรัฐฯ ก็ยังประสบความสำเร็จในกีฬาชนิดนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกรีฑากล่าวว่า ชาวอเมริกัน จะฝึกสอนลูกให้มีทักษะการวิ่งให้เร็ว และกระโดดให้สูงตั้งแต่เด็กๆ เพราะมีความคาดหวังให้ลูกได้มีโอกาสเล่นกีฬาในการแข่งขันลีกระดับชาติอย่าง NBA และ NFL นั่นเอง ซึ่งส่งผลให้หลายคนเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นนักกรีฑา และประสบความสำเร็จในที่สุด
ทั้งนี้ หลายคนอาจรู้สึกว่า สหรัฐฯ มีดีเฉพาะกรีฑา และว่ายน้ำเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะสหรัฐฯ สามารถคว้าเหรียญทองในกีฬาต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในจำนวนชนิดกีฬาทั้งหมดนั้น มีเพียง 3 ชนิดกีฬาเท่านั้น ที่สหรัฐฯ ไม่เคยได้รับเหรียญรางวัล นั่นคือ แบดมินตัน แฮนบอล และปิงปอง
อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเรื่องไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นัก ที่จะพูดว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีนักกีฬาเก่งที่สุดในโลกด้วยการวัดที่จำนวนเหรียญรางวัง เพราะการเป็นเจ้าเหรียญทองหลายครั้งติดต่อกันนั้น เป็นเพราะกีฬาอย่างว่ายน้ำ และกรีฑา มีจำนวนเหรียญทองให้ชิงชัยมากที่สุด และเป็นความโชคดีของสหรัฐฯ ที่มีความถนัดในทั้งสองชนิดกีฬานั่นเอง